วอลเล็ตแบบ Non-Custodial ชั้นนำ ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สาเหตุที่เรายกให้ Exodus เป็นหนึ่งในวอลเล็ตแบบ Non-Custodial ที่ดีที่สุด มาจากความสามารถของมันในการใช้งานได้ทั้งบน Desktop และ Browser ประกอบกับความสามารถในการรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลและหลายสกุล โดยที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมขาเข้า (มีค่าธรรมเนียมหากใช้งานผ่านบัตรเครดิต/เดบิต)
โดย Exodus เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการเป็นผู้ควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองอย่างเต็มรูปแบบผ่าน Private Key นอกจากนี้ตัววอลเล็ตยังสามารถทำงานร่วมกับ NFT และ DApp ได้อีกหลายรายการ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มันเป็นวอลเล็ตที่สมบูรณ์แบบอย่างมาก
ข้อดี
- สามารถเชื่อมต่อได้หลายเครือข่าย
- ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมขาเข้า
- เข้าถึงได้ง่ายผ่านแอปบนมือถือ
ข้อเสีย
- ค่าธรรมเนียมที่สูงสำหรับการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต/เดบิต
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มลงทุน
- ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่มีจำกัด
Exodus ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยมีลักษณะเป็นวอลเล็ตแบบ non-custodial ที่สามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลได้หลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามยังมีคนบางกลุ่มที่ตั้งข้อสงสัยว่า Exodus ถือเป็นวอลเล็ตที่ดีที่สุดในตลาดหรือไม
โดยในบทความนี้ เราจะมารีวิวอลเล็ตของ Exodus และเจาะลึกข้อมูลทุกอย่างไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย ฟีเจอร์ การใช้งาน ไปจนถึงการรองรับเหรียญสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ และปัจจัยด้านอื่นๆอีกมากมาย เพื่อนำมาพิจารณาว่า โดยสรุปแล้ว Exodus น่าใช้ในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลมากแค่ไหนในปี 2024
ประเด็นสำคัญ
ก่อนที่จะเริ่มเจาะลึกและทำความเข้าใจใน Exodus กันอย่างละเอียด เราลองมาดูคุณสมบัติภายในวอลเล็ตนี้กันก่อน
รูปแบบการใช้งาน
การดูแลทรัพย์สิน
เครือขายและเหรียญที่รองรับ
ค่าธรรมเนียม
แอปมือถือ
คุณสมบัติอื่นๆ
แอปมือถือ, บนเดสก์ท็อป และเบราว์เซอร์
Non-custodial
รองรับบล็อกเชนอย่าง Bitcoin, Ethereum, Binance Smart Chain, Polygon, Solana และ Cardano อีกทั้งยังรองรับสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอีก 260 รายการในเบื้องต้น และสามารถเพิ่มได้ด้วยตนเอง
ดำเนินการการชำระเงินโดย Ramp. ด้วยค่าธรรมเนียม สูงสุด 5.45% สำหรับผู้ใช้บัตรเดบิต/เครดิต
มี
ด้วยการจัดเก็บแบบ Non-custodial ทำให้นักลงทุนสามารถควบคุมสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างเต็มที่, ใช้ได้บนเดสก์ท็อป มือถือ และเบราว์เซอร์ อีกทั้งยังสามารถ เชื่อมต่อกับ Hardware Wallet อย่าง Trezor ได้
Exodus คืออะไร?
เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ Exodus เป็นวอลเล็ตคริปโตที่รองรับการใช้งานได้หลายสกุลเงิน และด้วยคุณสมบัติของการจัดเก็บแบบ non-custodial ที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือ Private Key ด้วยตนเองและไม่ต้องการถูกแทรกแซงโดยบุคคลที่สาม นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึง Exodus ได้หลายทาง ไม่ว่าจะผ่านแอปมือถือ เดสก์ท็อป และเบราว์เซอร์
Exodus เป็นหนึ่งในวอลเล็ตจัดเก็บแบบ non-custodial ที่ดีที่สุดในตลาด เนื่องจากการให้อิสระในการควบคุมสินทรัพย์ของตนเองอย่างเต็มที่ โดยผู้ใช้งานจะได้รับ Private Key ทันทีหลังจากเริ่มใช้งาน โดย Private Key ที่ได้จะเป็นชุดรหัสคำศัพท์จำนวน 12, 18, หรือ 24 คำ
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ Exodus นั่นคือทางโครงการไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลประจำตัวในวอลเล็ตของผู้ใช้งานได้ ซึ่งทำให้มันแตกต่างจากแพลตฟอร์มวอลเล็ตอื่นๆที่มีความ Centralized สูงกว่า ประกอบกับความสามารถในการใช้งานบนระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย ใช้ได้เกือบทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นมือถือที่มีระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android, ซอฟต์แวร์เดสก์ท็อปที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows, Mac และ Linux และยังสามารถใช้งานได้บนบราวเซอร์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Chrome และ Brave หรืออื่นๆ
โดยฟังก์ชันการใช้งานของ Exodus จะเกี่ยวกับการการจัดเก็บสกุลเงินดิจิทัลเป็นหลัก ซึ่งสามารถรองรับได้หลากหลายเครือข่ายบล็อกเชน ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum, Polygon, Cardano และอื่นๆอีกมากมาย โดยยังมีการรองรับ 260 สกุลเงินเป็นค่าเริ่มต้น ในขณะที่ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มเหรียญอื่นๆได้เองตามความต้องการ (ตราบเท่าที่อยู่ในเครือข่ายที่รองรับ)
นอกจากนี้ Exodus ยังมีอีกหลายจุดเด่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการไม่คิดอัตราค่าธรรมเนียม ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลถึงค่าธรรมเนียมที่จะบวกเพิ่มเข้ามาในระหว่างขั้นตอนการจ่ายค่า GAS อีกทั้งยังมีการรองรับ DApp ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างรายได้จากโทเค็นของตนเองโดยการ staking, yield farming หรือรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำของเหรียญได้โดยไม่จำเป็นต้องออกจากแพลตฟอร์ม
ทั้งนี้ Exodus ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อสกุลเงินดิจิทัลได้ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต รวมถึงการจ่ายผ่าน e-wallet โดยใช้ Ramp ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชำระเงินระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลกับเงินจริง มาเป็นตัวกลางในการดำเนินธุรกรรม (ผู้ใช้งานอาจโดนหักค่าธรรมเนียมที่สูงถึง 5.45% หากใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว) อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถใช้ Exodus เชื่อมต่อกับ Hardware Wallet อย่าง Trezor ได้ เพื่อทำการจัดเก็บสินทรัพย์ของตนเองไว้ในรูปแบบออฟไลน์ ในขณะที่ยังสามารถติดตามพอร์ตการลงทุนของตนได้ตลอดเวลา
Exodus รองรับสกุลเงินดิจิทัลใดได้บ้าง?
ถึงแม้จากรายงาน Exodus จะกล่าวว่าสามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลได้ 260 เหรียญ (ในค่าเริ่มต้น) แต่ในความเป็นจริง Exodus สามารถรองรับเหรียญได้หลายพันรายการ เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเพิ่มชนิดของโทเค็นได้ด้วยตนเอง ตราบใดที่เหรียญเหล่านั้นยังอยู่ในเครือข่ายที่ Exodus นั้นรองรับ
โดยในส่วนนี้ เราจะมาเจาะลึกกันว่า Exodus สามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลและเครือข่ายไหนกันได้บ้าง
เริ่มจากในแง่ของสกุลเงิน Exodus สามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมอย่าง:
- Bitcoin
- Ethereum
- XRP
- BNB
- XRP
- Cardano
- Solana
- Tron
- Litecoin
- Polkadot
- Avalanche
- Cosmos
- Monero
- Stellar
นอกจากนี้ Exodus ยังรองรับการใช้งานเหรียญทั้งหมดที่ทำงานภายในเครือข่ายบล็อกเชนที่ทำแพลตฟอร์มยอมรับ อย่างเช่นเนื่องจาก Exodus รองรับเครือข่าย Binance Smart Chain (BSC) ดังนั้น นักลงทุนสามารถเพิ่มเหรียญประเภท BSC ใดก็ได้ ลงในวอลเล็ต Exodus ได้ด้วยตนเอง และไม่ใช่แค่สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำเท่านั้น เพราะวอลเล็ต Exodus ยังมีฟีเจอร์ที่รองรับการเก็บ NFT อีกด้วย โดยมีเครือข่ายที่รองรับได้แก่ Ethereum, Solana และ Algorand
วอลเล็ต Exodus เป็น Centralized หรือ Decentralized?
เนื่องจาก Exodus แพลตฟอร์ทวอลเล็ตแบบ non-custodial ซึ่งแปลได้ว่าผู้ที่ใช้งานจะได้รับการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิตอลของตนเองเอาไว้ภายในสภาพแวดล้อมแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ในขณะที่เป็นเจ้าของ Private Key ของตนเอง
โดยสิ่งที่ทำให้วอลเล็ตแบบ non-custodial และ custodial แตกต่างกันก็คือ วอลเล็ตแบบ non-custodial จะมอบสิทธิ์ในการเข้าถึงความปลอดภัยทั้งหมดให้กับผู้ใช้ (Private Key) โดยที่จะไม่ผ่านการกำกับดูแลของแพลตฟอร์ม ได้ขณะที่ custodial wallet จะเป็นการให้บุคคลที่สามเป็นผู้ควบคุม Private Key แทนตัวของผู้ใช้งาน
โดย Exodus ถือเป็น Decentralized Wallet แบบเต็มรูปแบบ ที่สามารถใช้งานได้บนมือถือ เดสก์ท็อป และเว็บเบราว์เซอร์ ในขณะที่ผู้ให้บริการจะไม่สามารถเข้าถึง Private Key ของผู้ใช้งานได้โดยตรง
กล่าวอีกอย่างก็คือ Exodus รับประกันว่าผู้ใช้งานจะมีสิทธิ์ควบคุมการลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลของตนเองได้อย่างเต็มที่แบบไม่มีข้อจำกัดใดๆ
อย่างไรก็ตาม การให้อิสระดังกล่าวก็ทำให้เกิดความเสี่ยงบางอย่างเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะหากวอลเล็ตของผู้ใช้งานถูกแฮก หรือหากผู้ใช้งานทาง Private Key ของตนหาย จะเท่ากับว่าพวกเขาไม่สามารถกู้คืนสินทรัพย์ของตนเองได้
อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าว จะเป็นเช่นเดียวกันกับวอลเล็ตแบบ non-custodial ทั้งหมดที่อยู่ในตลาด
ถึงแม้ว่า Exodus จะเป็นวอลเล็ตแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Wallet) แต่ทางแพลตฟอร์มก็ได้มีการร่วมมือกับ Third Party บางแห่งอย่าง Ramp เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต อย่างไรก็ตาม Third Party จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในวอลเล็ตและ Private Key ของผู้ใช้งานได้อย่างแน่นอน โดยนอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สกุลเงินจริงในการซื้อสกุลเงินดิจิทัล จะต้องผ่านกระบวนการ KYC ในการยืนยันตัวตน
ค่าธรรมเนียมของ Exodus
ในส่วนต่อไปเราจะมาสำรวจอัตราค่าธรรมเนียมของ Exodus กันบ้าง
ค่าธรรมเนียมวอลเล็ต
ไม่มีค่าธรรมเนียมในการดาวน์โหลดหรือใช้ของ Exodus ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ใดก็ตาม
ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม
เช่นเดียวกับวอลเล็ตส่วนใหญ่ในตลาด ที่ปกติฝั่งที่โอนเงินจะเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมสำหรับการโอน โดยผู้รับจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ อย่างไรก็ตามในส่วนของการโอน ผู้ใช้งาน Exodus จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม GAS ที่กำหนดโดยเครือข่ายบล็อกเช่นแบบปกติ ตัวอย่างเช่น ค่าธรรมเนียม GAS ของ ERC20 จะถูกกำหนดโดยบล็อกเชน Ethereum ในขณะที่ค่าธรรมเนียม GAS ของ BSC ก็จะถูกกำหนดโดย Binance Smart Chain
ค่าธรรมเนียมสำหรับบริการส่วนของ Third Party
เนื่องจาก Exodus มี บ้างฟีเจอร์ที่เป็นของบุคคลที่ 3 เข้ามาใช้ภายในวอลเล็ต ดังนั้นผู้ที่ใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวจะถูกกำหนดโดยผู้ให้บริการเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่นการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต/เดบิตผ่านฟิวเจอร์จาก Ramp สำหรับกรณีนี้ ค่าธรรมเนียมจะถูกหักให้กับผู้ให้บริการโดยตรง
นอกจากนี้ Exodus ยังมีการทำรายได้จากส่วนต่างของราคาเหรียญระหว่างการใช้ฟิวเจอร์ Swap ซึ่งทางแพลตฟอร์มจะไม่ได้เปิดเผยว่ามีการคิดค่าส่วนต่างราคาเท่าใด แต่จะระบุเพียงว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวถูกรวมเข้าไปในราคานี้แล้ว
ธุรกรรมฝั่งขาเข้า
ไม่มีค่าธรรมเนียม
ธุรกรรมฝั่งขาออก
ค่าธรรมเนียม GAS ตามมาตรฐานในตลาด
การ Swap เหรียญ
มีค่าธรรมเนียมแฝงในค่าใช้จ่ายรวม
การซื้อคริปโตด้วยเงินสด
ดำเนินการผ่าน Ramp โดยมีอัตราค่าธรรมเนียมสูงสุดอยู่ที่ 5.45%
ความปลอดภัยของ Exodus Wallet
หลังจากที่ทำความเข้าใจในส่วนของค่าธรรมเนียมกันแล้ว ต่อไปเราจะมาเจาะลึกเกี่ยวกับความปลอดภัยภายในแพลตฟอร์มกัน
การป้องกันด้วยรหัสผ่าน
เช่นเดียวกับวอลเล็ตแบบ non-custodial ส่วนใหญ่ Exodus ได้กำหนดให้ผู้ใช้สร้างรหัสผ่านที่รัดกุมเพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานจะต้องเปิดใช้คุณสมบัติดังกล่าวด้วยตนเอง ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ผู้ใช้งานตั้งรหัสผ่านที่รัดกุมเพื่อปกป้องสินทรัพย์ของตนเอง
Private Keys ที่เข้ารหัส
Exodus จะมอบ Private Keys ให้กับผู้ใช้งานที่เพิ่งเปิดใช้วอลเล็ตเป็นครั้งแรก โดย Private Keys นี้จะถูกเข้ารหัสลงบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน ซึ่งหมายความว่า Exodus จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึง Private Keys นี้ได้ และจะไม่สามารถช่วยกู้คืนวอลเล็ตของผู้ใช้งานได้ หากเกิดกรณีที่ผู้ใช้งานลืมรหัสผ่านหรือทำ Private Keys ส่วนตัวหาย
รหัสผ่านสำรอง(Backup Passphrase)
Private Keys ที่ทาง Exodus มอบให้นั้นจะมีรหัสผ่านสำรอง ซึ่งอาจเป็นชุดคำจำนวน 12, 18, หรือ 24 คำ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน ดังนั้นผู้ใช้งานควรจดรหัสผ่านสำรองนี้ลงบนกระดาษและเก็บเอาไว้ในที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ถึงแม้าผู้ใช้งานทำรหัสผ่านดังกล่าวสูญหาย แต่ก็ยังมีสิทธิ์ที่จะสามารถกู้คืนวอลเล็ตของตนได้ เพียงแต่ต้องเป็นกรณีที่ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงวอลเล็ตของตนได้เท่านั้น
ฟีเจอร์ต่างๆบน Exodus Wallet
ต่อมา เราจะมาสำรวจฟีเจอร์ต่างๆ ภายในวอลเล็ตของ Exodus กันบ้าง
มีฟีเจอร์ Swap ภายในของตนเอง
ด้วยฟีเจอร์ดังกล่าวที่มีภายใน Exodus ทำให้ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องนำสินทรัพย์ออกจากวอลเล็ต ซึ่งจะรวมไปถึงการแลกเปลี่ยนข้ามเครือข่าย อย่างเช่นการแลกเปลี่ยนจาก ETH เป็น BNB หรือ LTC เป็น DOGE
อย่างไรก็ตามถึงแม้ฟีเจอร์นี้จะทำให้ Exodus มีความโดดเด่นจากวอลเล็ตอื่นๆในตลาด แต่มันก็ยังมีที่ต้องทำความเข้าใจบางอย่าง ได้แก่
- :ค่าธรรมเนียม: Exodus มีการทำรายได้จากส่วนต่างของราคาในระหว่างการทำธุรกรรม ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้งานกำลังจะซื้อขาย ETH ผ่านทาง Exodus โดยมีราคาซื้อขายอยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์ ผู้ใช้งานอาจต้องจ่าย 1,530 ดอลลาร์ในการทำธุรกรรมครั้งนั้น (คิดเป็นส่วนต่าง 2%)
- ความโปร่งใสที่ยังไม่ชัดเจน: เนื่องจากส่วนต่างของราคาที่บวกเพิ่มไปจะถูกรวมอยู่ในราคาที่ผู้ใช้งานจะต้องจ่าย ทำให้อาจเป็นการยากต่อผู้ใช้งานที่จะประเมินค่าส่วนต่างเหล่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ก็ดึงดูดผู้เริ่มต้นลงทุนที่ชอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมได้เป็นอย่างดี
การเชื่อมต่อกับ DApp ผ่าน WalletConnect
Exodus ได้ทำให้การเชื่อมต่อกับ DApps อย่าง Uniswap, Compound, OpenSea และ SushiSwap เป็นเรื่องง่าย ผ่านฟีเจอร์ WalletConnect ที่อยู่ในแอปบนมือถือ
ในการเข้าถึง DApp ผู้ใช้งานจะต้องเลือกไปที่เมนู “WalletConnect” บนอุปกรณ์เดสก์ท็อปก่อน ซึ่งจะแสดง QR code เฉพาะขึ้นมา หลังจากนั้นก็สแกน QR code ผ่านแอปของ Exodus เพื่อเชื่อมต่อกับ DApp ได้แบบไม่เปิดเผยตัวตน โดยที่ข้อมูลของการดำเนินการทำธุรกรรมที่เสร็จสมบูรณ์จะปรากฏขึ้นในวอลเล็ตของ Exodus
เครื่องมือ Staking ภายใน Exodus
โดยภายในแพลตฟอร์ม Exodus ยังมีเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำการ Staking สินทรัพย์ได้อย่างสะดวกสบาย และสร้างรายได้แบบ Passive Income จากสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งาน
โดยเหรียญสามารถทำการ Staking ที่ดีที่สุดภายใน Exodus ได้แก่
- Solana
- Cardano
- Ontology
- VeChain
- Algorand
- Tezos
- Cosmos
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อยกเว้นสำหรับเหรียญ Ethereum เพราะ Exodus ได้ใช้ Lido ซึ่งเป็น decentralized staking pool ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรางวัล staking ที่มีการแข่งขันได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็น validator
และในส่วนของค่าธรรมเนียม Exodus นั้นไม่มีรายได้จากการที่ผู้ใช้งาน Staking เหรียญของตนเอง แต่อย่างไรก็ตามก็อาจมีค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระเกิดขึ้นได้ ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ Staking แต่ละราย
การซื้อขายเหรียญด้วยสกุลเงินจริง
จากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น Exodus อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลได้ผ่าน Ramp ซึ่งจะมีประเภทการชำระเงินที่รองรับอย่าง
- Bank wire
- Debit/credit cards
- ApplePay
- GooglePay
และนอกจากนี้ผู้ใช้งาน Exodus ยังสามารถแปลงสกุลเงินดิจิทัลให้กลับไปเป็นสกุลเงินจริงได้อีกด้วย
โดยมีอัตราค่าธรรมเนียมดังนี้
ซื้อเหรียญด้วยสกุลเงินจริง
ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ
ต่ำกว่า 2,500 ยูโร
สูงกว่า 2,500 ยูโร
การโอนผ่านธนาคาร
2.49 ยูโร
ค่าธรรมเนียมสูงสุด 1.40%
ค่าธรรมเนียมสูงสุด 0.90%
ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต หรือ E-Wallet (USD, EUR, GBP)
2.49 ยูโร
ค่าธรรมเนียมสูงสุด 3.9%
ค่าธรรมเนียมสูงสุด 3.9%
ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต หรือ E-Wallet (ไดสกุลเงินอื่นๆ)
2.49 ยูโร (แปลงเป็นสกุลเงินของแต่ละประเทศ)
ค่าธรรมเนียมสูงสุด 5.45%
ค่าธรรมเนียมสูงสุด 5.45%
ขายเหรียญด้วยสกุลเงินจริง
ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ
ค่าธรรมเนียม
การโอนผ่านธนาคาร ACH
3.99 ดอลลาร์
0.99%
การชำระเงินแบบเรียลไทม์ ผ่านธนาคาร
3.99 ดอลลาร์
0.99%
Visa หรือ MasterCard
3.99 ยูโร
4.49%
การจัดการ portfolio
จากการสำรวจเราพบว่า Exodus ได้นำเสนอรูปแบบการจัดการ portfolio ของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยสกุลเงินดิจิทัลที่ผู้ใช้งานถืออยู่ในวอลเล็ตของ Exodus จะถูกแสดงขึ้นมาพร้อมกับมูลค่าตามเวลาจริง โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกให้มันแสดงราคาเป็นสกุลเงินที่ตนต้องการได้ อีกทั้งยังมีข้อมูลทางสถิติ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถวางแผนได้อย่างราบรื่น
โดยภายใน portfolio ผู้ใช้งานจะได้เห็นข้อมูลของสกุลเงินดิจิทัลที่ทำผลงานได้ดีที่สุดและแย่ที่สุดใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และสามารถเพิ่มหรือเปลี่ยนตัวชี้วัดที่จะช่วยมาวิเคราะห์การลงทุนได้ด้วยตนเอง
User Experience ภายใน Exodus Wallet
Exodus ได้มอบประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยม ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งเริ่มลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ชัดเจน รวมถึงการออกแบบหน้าตาของแพลตฟอร์มที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บ ซื้อขาย หรือทำการ Staking ได้อย่างราบรื่น
โดยในส่วนของการตั้งค่าความปลอดภัยนั้น จะขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่ผู้ใช้งานใช้เดสก์ท็อปหรือส่วนเบราว์เซอร์จะต้องมีการสร้างรหัสผ่านที่รัดกุม ในขณะที่ผู้ใช้ผ่านแอป Exodus สามารถเลือกระหว่าง PIN หรือ Face/Fingerprint ID
นอกจากนี้ Exodus ยังได้นำเสนอรูปแบบการ รับ-ส่ง สกุลเงินดิจิทัลที่ง่ายหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานสามารถส่งเหรียญให้กับผู้อื่นได้ ผ่านการคลิกไปที่เมนู Wallet ตามด้วยเลือกประเภทเหรียญ และใส่ Address ของปลายทาง หรือในกรณีที่ใช้แอปของ Exodus ผู้ใช้งานก็สามารถสแกน Address ของปลายทางผู้รับได้ง่ายๆผ่านสมาร์ทโฟน
โดยแอป Exodus Wallet นั้นได้รับการรีวิวบน Google Play และ App Store ว่าเป็นหนึ่งในแอปที่ยอดเยี่ยม ด้วยคะแนนที่สูงถึง 4.5/5 และ 4.6/5 คะแนนตามลำดับ
วิธีโอนเงินและซื้อคริปโตบน Exodus
ถัดไป เราจะมาดูวิธีการซื้อ ซื้อสกุลเงินดิจิทัลภายใน Exodus wallet กัน
การโอนเงินไปยังวอลเล็ตอื่นๆ:
ในการโอนเงินไปยังไปยังวอลเล็ตอื่นๆ จะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คลิกที่ไอคอน ‘Wallet’
- จากนั้นคลิกที่สกุลเงินดิจิทัลที่ต้องการโอน
- คลิกที่ไอคอน ‘ลูกศร’ ทางด้านซ้ายมือ
- ใส่ Address ปลายทางที่จะส่งสกุลเงินดิจิทัลไป
- ยืนยันการโอน
โดยจากการเป็นวอลเล็ตแบบ non-custodial ทำให้ Exodus จะดำเนินการโอนสินทรัพย์ไปยังปลายทางทันที
การซื้อคริปโตผ่าน Exodus
ถึงแม้ว่าอาจมีตัวเลือกที่ถูกกว่าสำหรับการซื้อสินทรัพย์คริปโต แต่ก็ยังมีผู้ใช้บางคนที่ต้องการซื้อเหรียญโดยการใช้สกุลเงินจริง ซึ่งจะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ขั้นแรกให้คลิกที่ไอคอน ‘ซื้อ/ขาย’ ตามที่ลูกศรระบุเอาไว้ด้านบน
- เลือกสกุลเงินที่จะชำระเงิน เช่น USD หรือ EUR
- จากนั้นเลือกสกุลเงินดิจิทัลที่จะซื้อ เช่น Bitcoin หรือ Ethereum
หลังจากนั้นผู้ใช้งานจะถูกพาไปยังหน้าการชำระเงินของ Ramp ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการ KYC ก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ โดยหลังจากที่ทำการซื้อเสร็จสิ้น สกุลเงินดิจิตอลจะถูกเพิ่มเข้าไปภายใน Exodus wallet โดยอัตโนมัติ
การถอนเหรียญออกจาก Exodus
ขั้นตอนการถอนเหรียญออกจาก Exodus จะมีกระบวนการเดียวกับการโอน เนื่องจากเป็นรูปแบบการโอนวอลเล็ตหนึ่งไปยังอีกวอลเล็ต ดังนั้นผู้ใช้งานเพียงแค่ คลิกที่ไอคอน ‘Wallet’ และเลือกสกุลเงินดิจิทัลที่จะส่ง พร้อมกับใส่ Address ของผู้รับเท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
ฝ่ายบริการลูกค้าของ Exodus
ผู้ใช้งาน สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Exodus ได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทาง Live Chat บนแพลตฟอร์ม ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นเป็นเจ้าของวอลเล็ต ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างทันที ทั้งนี้ระยะเวลาในการรอรับความช่วยเหลืออาจแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับจำนวนปัญหาในแต่ละวัน
แต่อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีเร่งด่วน Exodus ยังมีบริการพรีเมียม ที่จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 49 ต่อการแก้ปัญหา 1 ครั้ง ครั้ง โดยจะสามารถคุยกับทีมงานผ่านวิดีโอคอลได้ถึง 35 นาที
วิธีใช้งาน Exodus
ในขั้นตอนนี้ เราจะมาอธิบายถึงวิธีเริ่มต้นการใช้งาน Exodus อย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดวอลเล็ต หรือการตั้งระบบรักษาความปลอดภัยด้วยรหัสผ่าน ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที เท่านั้น
หมายเหตุ: ในการสอนครั้งนี้ เราได้ใช้ส่วนขยายของ Exodus Chrome มาเป็นตัวอย่าง ทั้งนี้ถึงแม้ขั้นตอนที่ทำส่วนใหญ่จะมีความเหมือนกับการใช้งานบนอุปกรณ์ประเภทอื่นๆ แต่อาจมีความแตกต่างอยู่บ้างเล็กน้อย
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลด Exodus Wallet
เริ่มแรก เข้าไปยังเว็บไซต์ Exodus แล้วกดที่ ‘ดาวน์โหลด’ จากนั้นเลือกอุปกรณ์ที่จะดาวน์โหลดวอลเล็ต
ผู้ใช้มือถือสามารถดาวน์โหลดแอป iOS หรือ Android ได้ ในขณะที่ผู้ใช้เดสก์ท็อปสามารถเลือกระหว่าง Windows, Mac และ Linux และผู้ที่ต้องการส่วนขยายเบราว์เซอร์สามารถเลือก Chrome หรือ Brave ได้ตามใจชอบ
ขั้นตอนที่ 2: สร้างวอลเล็ตและรับรหัสผ่านสำรอง
ถัดไป เปิดแอป Exodus แล้วเลือกปุ่ม ‘Create New Wallet’ (สร้างวอลเล็ตใหม่) จากนั้นคลิกที่ปุ่ม ‘Backup’ (สำรองข้อมูล) wallet และคลิกไปที่ปุ่ม ‘Reveal’ (เปิดเผย) โดย Exodus จะแสดงรหัสผ่านสำรอง 12 คำ ขึ้นมา
ให้ผู้ใช้งานจดรหัสเหล่านี้ลงบนกระดาษ พร้อมกับตรวจสอบให้แน่ใจว่าลำดับของคำถูกต้อง และอย่าเปิดเผยรหัสผ่านนี้กับใครเด็ดขาด
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งระบบรักษาความปลอดภัยด้วยรหัสผ่าน
หลังจากจดบันทึกรหัสผ่านลงบนกระดาษเรียบร้อยแล้ว Exodus จะให้ตัวเลือกในการตั้งค่ารหัสผ่าน
ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ตั้งรหัสผ่านเอาไว้ เนื่องจากมันจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับวอลเล็ต เมื่อเสร็จแล้วโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่ารหัสผ่านที่เลือกมีความแข็งแกร่งเและซับซ้อนเพียงพอ เพื่อไม่ให้ใครสามารถเดาได้
ขั้นตอนที่ 4: เพิ่มสกุลเงินดิจิทัลไปยัง Exodus
หลังจากที่วอลเล็ตได้รับการตั้งค่าระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการเพิ่มเหรียญเข้าไปยังวอลเล็ต
ผู้ใช้งานสามารถศึกษาเกี่ยวกับวิธีรับหรือซื้อสกุลเงินดิจิทัลผ่าน Exodus ได้จากหัวข้อ “วิธีโอนเงินและซื้อคริปโตบน Exodus” ด้านบน
ทางเลือกอื่นนอกจาก Exodus Wallet: ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่คล้ายกันอย่าง NFT และ DEX
Best Wallet ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มวอลเล็ตใหม่ที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน จะฟีเจอร์ที่โดดเด่นหลายอย่างทำให้มันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ถัดจาก Exodus Wallet
โดย Best Wallet ก็เป็นวอลเล็ตในรูปแบบ non-custodial เช่นเดียวกัน ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลบน Ethereum Mainnet, Polygon Mainnet หรือ BSC Mainnet ได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ จุดที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ Best Wallet มีการใช้เทคนิคการเข้ารหัสขั้นสูง การตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย และมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบ biometric เพื่อรับประกันว่าผู้ใช้งานจะได้รับการดูแลภายใต้กรอบความปลอดภัยระดับสูง
นอกจากนี้ Best Wallet ยังมีแผนในการรองรับ เครือข่าย Bitcoin และบล็อกเชนสำคัญอื่นๆอีกมากในอนาคต และด้วยโซลูชัน multi-wallet และ multi-chain นี้ทำให้มันเป็นอีกหนึ่งวอลเล็ตที่กำลังจะมาเป็นตัวพลิกเกมในวงการ
ฟีเจอร์เด่นของ Best Wallet
- ข้อมูลเชิงลึก: Best Wallet มีฟีเจอร์ที่ตรวจสอบแนวโน้มตลาด และนำเสนอข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับข่าวโครงการสำคัญ ความเชื่อมั่นของโทเคน และเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้งาน
- โทเคนที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้: Best Wallet เสนอการเข้าถึงเหรียญใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวก่อนใครในตลาด ยกตัวอย่างเช่น Bitcoin Minetrix โดยสิ่งนี้จะทำให้ผู้ใช้งานได้เปรียบในการเข้าถึงโครงการที่มีศักยภาพสูงก่อนใคร
- การ Airdrop: Best Wallet มีแผนที่จะให้รางวัลแก่ผู้ใช้งานผ่านการ Airdrop เหรียญ BEST ซึ่งจะมีคุณสมบัติพิเศษภายใน Best Ecosystem อย่างเช่นการไม่คิดค่าธรรมเนียม gas และ airdrop โบนัส
- รองรับ NFT: จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ NFTs ทำให้การมี NFT wallet จึงเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญในยุคนี้ โดย Best Wallet ก็ได้มีฟีเจอร์ NFT Gallery ภายในแอปเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถ จัดเก็บ ซื้อ ขาย และจัดการคอลเลกชัน NFT ของตนเองได้ในที่เดียว
- การผสานกับ DEX: นอกจาก Best Wallet แล้ว ทางโครงการยังมีกระดานเทรดของตนเองอย่าง Best DEX ซึ่งเป็น decentralized exchange ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงานร่วมกัน โดยมีต้นทุนในการซื้อขายที่ต่ำเป็นจุดแข็ง โดยทางแพลตฟอร์มจะจับคู่ liquidity pools ที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญ Ethereum หรือ BNB Smart Chain ได้ง่ายๆผ่านวอลเล็ตของตน นอกจากนี้ทางกระดานเทรดยังมีฟีเจอร์ในการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาด การวิเคราะห์ และแผนภูมิเรียลไทม์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ Best Wallet ยังมีแผนในการอัปเดตระบบ เป็น User-Focused ที่จะผสานทั้ง Web3Auth, การรองรับ Multi Wallet, การศึกษา Crypto 101, ฟังก์ชัน NFT, โอกาสในการ stake มาไว้ในแพลตฟอร์ม โดยที่จะมีการเปิดตัวโทเคน BEST อยู่ในช่วงระยะที่ 6 ของแผนการ
คุณสามารถไปที่ Best Wallet Linktree และติดตามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อรับข้อมูลอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับความคืบหน้า
บทสรุป
Exodus เป็นวอลเล็ตที่มีวิธีใช้งานที่ง่าย สำหรับนักลงทุนทุกระดับ โดยเฉพาะกับผู้เริ่มเข้าวงการ จากความง่ายในการจัดเก็บและจัดการสกุลเงินดิจิทัล อีกทั้งยังรองรับเครือข่ายที่หลากหลาย และไม่มีธรรมเนียมการจัดเก็บหรือส่วนต่างค่า GAS
แต่อย่างไรก็ตาม Exodus ยังมีจุดที่ต้องระวังบางอย่างในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากผู้ใช้ต้องเปิดใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยด้วยตัวเองเอง จึงทำให้วอลเล็ตไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยด้วยรหัสผ่านในตอนแรก อีกทั้ง Exodus ยังออนไลน์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตี
จุดที่ต้องระวังอีกอย่างคือ Exodus ได้ร่วมมือกับ Ramp เพื่อให้บริการชำระเงินด้วยเงินสด ซึ่งทำให้มีค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต/เครดิตที่สูงถึง 5.45% นอกจากนี้ ยังมีค่าส่วนต่าง เมื่อใช้เครื่องมือ Swap ที่ยากต่อการประเมินราคา
โดยรวมแล้ว ยังมีวอลเล็ตที่ดีกว่านี้ในตลาด เช่น Best Wallet ทั้งนักลงทุนสามารถดูศึกษาเกี่ยวกับวอลเล็ตคริปโตที่ดีที่สุดในปี 2024 ได้ผ่านทางเว็ปไซต์ Techopedia
คำถามที่พบบ่อย
Exodus น่าเชื่อถือแค่ไหน?
Exodus Wallet ปลอดภัยหรือไม่??
Exodus ปลอดภัยกว่า Binance หรือไม่?
จุดเด่นของ Exodus?
ทำไม Exodus ถึงดีกว่า Coinbase?
วอลเล็ตบน Exodus ถูกแฮกได้ไหม?
ข้อมูลอ้างอิง
- เว็บไซต์ทางการของ Exodus (Exodus)
- อัตราค่าธรรมเนียมของ Ramp สำหรับ ซื้อ/ขาย คริปโต? (Ramp)
- BNB Smart Chain (BNB Chain)
- ค่า Gas และ ค่าธรรมเนียม (Ethereum)
- ความต่างระหว่าง วอลเล็ตแบบ Non-Custodial กับ วอลเล็ต แบบ Custodial (BitPay)
- การ Stake Ether (Lido)
- การ Staking Tezos (XTZ) (Exodus)
- แอพ Exodus: Crypto Bitcoin Wallet (บน App Store)
- แอพ Exodus: Crypto Bitcoin Wallet (Google Play)
- คู่มือการจัดการพอร์ทการลงทุนคริปโต (CoinMarketCap)
- นโยบายทางการเงินในยุคดิจิทัล (IMF)