Day Trading คืออะไร? คู่มือสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเทรดรายวัน!

เมื่อเข้าสู่โลกของการลงทุน มีกลยุทธ์อยู่หลากหลายที่จะช่วยให้นักเทรดสามารถสร้างรายได้หรือทำกำไรได้ และ Day Trading ก็คือหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ Day Trading คืออะไร? เทรดเดอร์จะสามารถใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์นี้อย่างประสิทธิภาพได้อย่างไร? ในบทความนี้ เราจะมาดูรายละเอียดต่างๆ และทุกสิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องทราบเกี่ยวกับกลยุทธ์ดังกล่าว เพื่อที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในการลงทุนของคุณได้ดีที่สุด

Day Trading คืออะไร?

Day Trading หรือ Day Trade คือ กลยุทธ์ที่นักเทรดจะทำการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินในช่วงเวลาภายในวันเดียว เพื่อหวังกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็ว วัตถุประสงค์หลักๆ คือการสร้างผลกำไรจากความเคลื่อนไหวของตลาดต่างๆ ที่สามารถทำการซื้อขายในระยะสั้น (รายวัน) ได้ ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์, หุ้น, คริปโต, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือ ดัชนีต่างๆ

ในการเทรดรายวัน นักเทรดจะต้องทำธุรกรรมหลายครั้งตลอดช่วงเวลาการซื้อขาย โดยหวังใช้ประโยชน์จากส่วนต่างราคาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อทำกำไร วิธีนี้แตกต่างอย่างชัดเจนจากกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว เพราะ Day Trader (นักเทรดรายวัน) มักจะไม่ค่อยสนใจมูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์ แต่จะเน้นใช้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวของตลาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแทน

ความน่าดึงดูดของการลงทุนแบบ daytrade (การเทรดรายวัน) คือโอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม มันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง การเทรดรายวันให้ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของตลาด และความสามารถในการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและมีข้อมูลที่ครบถ้วน

นอกจากนี้ นักเทรดรายวันจะต้องคอยจับตาดูพัฒนาการของตลาด ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคาสินทรัพย์ตลอดทั้งวัน บ่อยครั้งที่นักเทรดรายวันใช้เลเวอเรจเมื่อเทรด CFD ทำให้เทรดได้ในจำนวนที่สูงกว่าเงินทุนเริ่มต้น ซึ่งอาจจะเพิ่มกำไรที่ได้รับ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงของการขาดทุนด้วย ดังนั้น ถึงมักจะมีคำเตือนอยู่เสมอว่า กลยุทธ์ day trading นั้นไม่เหมาะสำหรับมือใหม่และคนที่ไม่มีความพร้อมทางการเงินที่จะรับมือกับการขาดทุน

Day Trading ทำงานอย่างไร?

การเทรดรายวันเป็นกลยุทธ์ที่มักจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากในตลาดทางการเงินที่มีความผันผวน เช่น ตลาหุ้น, ตลาดคริปโต หรือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (ฟอเร็กซ์) เป็นต้น

โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดรายวันจะต้องตระหนักถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะทำให้ตลาดเกิดความผันผวนในระยะสั้น โดยมักจะใช้กลยุทธ์ News-based Trading (การเทรดตามข่าว) ซึ่งเป็นเทคนิคที่พบบ่อยในวงการนี้ นอกจากนี้ การประกาศข้อมูลต่างๆ ตามกำหนด เช่น การเปิดเผยตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ รายงานผลประกอบการของบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย ก็ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตลาดเช่นกัน

ตลาดจะตอบสนองอย่างรวดเร็วเมื่อผลลัพธ์เกินกว่าหรือต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมักจะทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันและรุนแรง ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการเทรดรายวัน เช่น ถ้าผลประกอบการของบริษัทดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ราคาหุ้นก็อาจจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การเทรดหุ้นรายวันได้รับผลในเชิงบวก ในทางกลับกัน ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังก็อาจจะทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็ว นักเทรดรายวันจะต้องตีความข้อมูลเหล่านี้และเทรดอย่างรวดเร็วเพื่อฉกฉวยโอกาสจากความผันผวนของตลาด

สรุปก็คือ กลยุทธ์ day trade จะเน้นการใช้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของตลาดที่เกิดจากข่าวและปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ นักเทรดรายวันจะต้องพยายามจับกระแสตลาดและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อหาโอกาสทำกำไรในช่วงสั้นๆ ภายในวันเดียว

กลยุทธ์การเทรดรายวันที่ควรจะนำมาพิจารณาเลือกใช้งาน

ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช้กลยุทธ์การเทรดรายวันทั้งหมดที่มีอยู่ แต่ก็นี่เป็น 6 กลยุทธ์ยอดนิยมที่คุณสามารถเลือกใช้งานได้ในช่วงเริ่มต้น

• การวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของราคา (Price Action Analysis): กลยุทธ์การเทรดรายวันง่ายๆ นี้ก็คือการศึกษากราฟเพื่อระบุรูปแบบและคาดการณ์ทิศทางราคาของสินทรัพย์
• การเก็บกำไรจากส่วนต่างเล็กน้อย (Scalping): กลยุทธ์นี้จะเป็นการผสมผสานการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคเพื่อใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กๆ น้อยๆ ในตลาด สถานะเหล่านี้อาจจะกินเวลาเพียงไม่กี่นาทีหรือวินาที เป้าหมายคือขายสถานะออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อทำกำไร
• การเทรดตามเทรนด์ (Trend Following): กลยุทธ์นี้จะเป็นการเทรดตามเทรนด์และโมเมนตัมของตลาด โดยการใช้ใช้ตัวชี้วัดเทรนด์ โมเมนตัม และปริมาณการซื้อขายเพื่อเข้าสถานะซื้อเมื่อราคาขึ้น หรือเข้าสถานะขายเมื่อราคาลง
• การเทรดสวนเทรนด์ (Counter-Trend Trading): กลยุทธ์นี้จะเกี่ยวข้องกับการเทรดสวนกับเทรนด์ปัจจุบันด้วยความตั้งใจ เพื่อเดิมพันว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเปลี่ยนทิศทางหรือปรับตัวไปยังที่จุดราคาที่มั่นคงกว่า
• การเทรดตามปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Trading): วิธีนี้ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เช่น การศึกษาตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญและตัวเลขทางการเงินเพื่อตัดสินใจซื้อหรือขาย
• การเทรดตามข่าว (News-based Trading): สำหรับ Day Trader เหตุการณ์ข่าวต่างๆ อาจจะเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่า และข้อมูลใดๆ ที่อาจจะส่งผลต่อราคาหุ้นจะมีค่าเป็นอย่างมาก ซึ่งรวมถึงทุกอย่างตั้งแต่ การประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่ ไปจนถึง ข่าวลือในอุตสาหกรรม นักเทรดรายวันจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

ตลาดใดที่คุณสามารถใช้กลยุทธ์การเทรดรายวันได้บ้าง?

อันที่จริงแล้ว กลยุทธ์ day trading นั้นสามารถใช้ได้กับสินทรัพย์ทุกประเภท สิ่งสำคัญคือต้องหาตลาดที่มีความผันผวนของราคาในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้เปิดและปิดการเทรดได้ในเซสชั่นเดียวกัน

การเทรดหุ้นรายวัน

ตลาดหุ้นถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ยอดนิยมสำหรับการเทรดรายวัน นักเทรดส่วนใหญ่มักเล็งหุ้นที่มีประวัติความผันผวนหรือสภาพคล่องสูง หรือ บริษัทที่ราคากำลังเคลื่อนไหวอย่างมากเนื่องจากข่าวล่าสุดหรือการประกาศข้อมูลใดๆ ที่กำลังจะมาถึง

การเทรดฟอเร็กซ์รายวัน

ตลาดฟอเร็กซ์เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากสามารถเทรดได้ 24/5 นักเทรดฟอเร็กซ์รายวันจึงสามารถกำหนดนิยาม “วัน” ของตัวเองได้ เซสชั่นการเทรดฟอเร็กซ์ในท้องถิ่นมักจะทับซ้อนกันในบางช่วงเวลา และนักเทรดฟอเร็กซ์รายวันบางคนใช้ประโยชน์จากช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายสูงนี้ เช่น เซสชั่นของลอนดอนและนิวยอร์กมักจะทับซ้อนกันหลายชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์รายวันที่มีประสบการณ์

การเทรดคริปโตรายวัน

ตลาดคริปโตมักจะเป็นตลาดที่ถูกมองว่าเหมาะกับเทรดเดอร์รายวัน เพราะมีความผันผวนของราคาสูงมาก ถึงแม้ว่าจะเพิ่มระดับความเสี่ยงมากขึ้น แต่ก็เพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรที่สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดรายวันมองหา ตลาดคริปโตโดยทั่วไปสามารถเทรดได้ตลอด 24/7 ดังนั้น นักเทรดแต่ละคนจึงสามารถกำหนดขอบเขตของ “วัน” ได้เอง นอกจากนี้ เหรียญคริปโตบางประเภท เช่น เหรียญมีมยอดนิยม ยังเป็นสินทรัพย์ที่ผันผวนตามกระแสได้เป็นอย่างมาก ซึ่งหากมีจังหวะที่เหมาะสมแล้ว มันสามารถทำกำไรให้กับนักเทรดได้เป็นอย่างมาก

ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ Day Trading

ข้อดีของกลยุทธ์ daytrade มีดังนี้:

• การเทรดรายวันแทบจะไม่ต้องเปิดสถานะข้ามคืน ดังนั้น จึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการถือสถานะข้ามคืน
• เนื่องจากไม่ได้มีการถือสถานะการเทรดไปถึงวันถัดไป มันจึงไม่ได้รับผลกระทบจากความเคลื่อนไหวของราคาในเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน
• มีกลยุทธ์ให้เลือกหลากหลาย และแต่ละกลยุทธ์ก็มีโอกาสที่ไม่เหมือนกันในการเข้าและออกจากสถานะ
• สามารถเทรดในตลาดขาขึ้นและขาลงผ่านผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ เช่น CFD เป็นต้น
• นักเทรดรายวันสามารถเทรดในตลาดการเงินที่แตกต่างกัน ทำให้มีโอกาสกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนและหาโอกาสในตลาดการเงินที่หลากหลาย

ข้อเสียของกลยุทธ์ daytrade มีดังนี้:

• ต้องใช้เวลามากในการจดจ่อกับกราฟ รวมถึงการศึกษาข้อมูลประจำวันเพื่อหาโอกาสในการเทรดที่มีศักยภาพ
• การเทรดทุกรูปแบบมีความเสี่ยงอยู่บ้าง และการเทรดรายวันก็ไม่ต่างกัน ธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงของราคาที่รวดเร็วและการใช้เลเวอเรจในการเทรดรายวันอาจจะเพิ่มความเสี่ยงของการขาดทุนได้เป็นอย่างมาก
• นักเทรดหลายคนอาจจะต้องต่อสู้กับอารมณ์ของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ขาดทุนติดต่อกัน ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความต้องการในการเทรดแก้มือหรือการเทรดมากจนเกินไป
• โดยทั่วไปแล้ว การเทรดรายวันต้องใช้ประสบการณ์มาก และสำหรับบางคน มันอาจจะยากกว่า Swing Trading (การเทรดแบบสวิง) เพราะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วในการเข้าและออกจากการเทรด ซึ่งอาจจะทำให้ระดับความเครียดเพิ่มขึ้นได้

การจัดการความเสี่ยงในกลยุทธ์ Day Trading

การจัดการความเสี่ยงในการเทรดรายวันถือเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน การจัดการความเสี่ยงก็คือการจำกัดโอกาสขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้น หรือการจำกัดจำนวนเงินที่คุณอาจจะสูญเสียไปในการเทรด เมื่อพิจารณาในเรื่องความเสี่ยง ให้คำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้:

• ขนาดของสถานะ: ถ้าการเทรดผิดพลาด คุณจะขาดทุนเท่าไหร่?
• เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุน: พอร์ตโดยรวมของคุณจะได้รับผลกระทบมากแค่ไหนถ้าสถานะดังกล่าวย่ำแย่ลง?
• การขาดทุน: คุณสามารถยอมรับการขาดทุนได้มากแค่ไหนก่อนที่จะขายทิ้ง?
• การขาย: หลังจากถึงจุดที่สามารถทำกำไรได้แล้ว คุณจะขายเมื่อไหร่?

แม้จะมีกลยุทธ์ที่ดี แต่การเทรดก็อาจจะไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการเสมอไป ดังนั้น สิ่งสำคัญคือจะต้องมีแผนการอย่างเข้มงวดว่า จะปิดสถานะเมื่อใด ไม่ว่าจะเป็นการขายหลังจากราคาขึ้นหรือลงกี่เปอร์เซ็นต์ หรือขึ้นอยู่กับการซื้อขายของหุ้นหรือตลาดในวันนั้น เป็นต้น

การจัดการความเสี่ยงที่ดีช่วยป้องกันไม่ให้การขาดทุนเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นการขาดทุนครั้งใหญ่ และรักษาเงินทุนของคุณไว้สำหรับการเทรดในอนาคตได้ แต่นั่นหมายความว่า นักเทรดจะต้องยอมรับการขาดทุนได้ ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับนักเทรดหลายคน ถึงแม้ว่ามันจะจำเป็นต่อการอยู่รอดในระยะยาวก็ตาม

การเทรดรายวันเหมาะกับคุณหรือไม่?

ในบทความนี้ เราก็เรียนรู้กันไปแล้วว่า Day Trading คืออะไร แต่กลยุทธ์การเทรดนี้จะเหมาะกับคุณหรือไม่? กลยุทธ์การเทรดรายวันนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ เพราะต้องใช้เวลาในการศึกษาและการประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นเพื่อนำมาปรับใช้ในการเทรดของคุณ และจำเป็นจะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาด อย่างไรก็ตาม หากผสมผสานการศึกษาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐาน ข่าวเศรษฐกิจ หรือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค การที่จะเป็นนักเทรดรายวันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไป

การเทรดรายวันมีความเสี่ยงอยู่ในระดับหนึ่ง ดังนั้น จงคิดให้รอบคอบและตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่า คุณรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ก่อนที่จะเริ่มต้น หากคุณชอบความตื่นเต้นและรู้สึกว่าสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ กลยุทธ์การเทรดรายวัน (Day Trade Strategy) ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ

ลิงก์อ้างอิง

• อะไรคือ Price Action? – บทนำเกี่ยวกับการเทรดแบบ Price Action
• พื้นฐานการเทรดรายวัน: สิ่งที่คุณต้องรู้
• กลยุทธ์การเทรดโดยอิงจากข่าว

คำถามที่พบบ่อย