การเทรดคืออะไรและมีวิธีทำเงินอย่างไร

การเทรดคืออะไรและมีวิธีการทำเงินอย่างไรเป็นคำถามที่นักลงทุนมือใหม่หลายคนต่างตั้งคำถาม

บทความนี้จะนำพาคุณผู้อ่านทุกท่านได้เรียนรู้วิธีการเทรดอย่างละเอียด วิธีการทำเงินจากการเทรด แนะนำโบรกเกอร์ออนไลน์สำหรับการเทรดที่เชื่อถือได้ วิธีเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์ และคำแนะนำเทรดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

โปรดทราบว่าการลงทุนมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน!

การเทรดคืออะไร

การเทรด (Trading) คือกระบวนการในการซื้อและขายสินทรัพย์ วิธีการทำเงินจากการเทรดคือนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ถือครองและขายสินทรัพย์เพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคา ซึ่งการเทรดมี 4 รูปแบบ ดังนี้

การเทรดทางการเงินการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์การค้าปลีกการค้าระหว่างประเทศ

การเทรดทางการเงิน (Financial Trading)

การเทรดทางการเงินคือการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น Forex และพันธบัตร โดยนักลงทุนจะถือครองสินทรัพย์และรอขายเมื่อราคาสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก

เช่น นายไก่ซื้อหุ้น Amazon ที่ราคา $170 เมื่อเดือนมิถุนายน 2024 และขายหุ้นที่ราคาตลาดที่ $175 เมื่อเดือนสิงหาคม 2024

การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Trading)

การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์คือการซื้อและขายสินทรัพย์ที่เป็นวัตถุ เช่น ทองคำ น้ำมัน และเหล็ก โดยนักลงทุนจะถือครองสินทรัพย์และรอขายเมื่อราคาสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก

เช่น นายกบซื้อทองคำแท่งที่ราคาประมาณ 25,000 บาทเมื่อเดือนมกราคม 2023 และขายทองคำแท่งที่ราคาตลาดที่ประมาณ 38,000 บาทเมื่อเดือนสิงหาคม 2024

การค้าปลีก (Retail Trading)

การค้าปลีกคือการซื้อสินค้าและขายต่อให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง เช่น อาหาร เสื้อผ้า และยา โดยนักลงทุนจะซื้อสินทรัพย์และ/หรือมีสินทรัพย์อยู่แล้วและขายสินทรัพย์เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ซึ่งนักลงทุนอาจจะตั้งราคาของสินทรัพย์ด้วยตนเองหรือขายสินทรัพย์ตามราคาตลาด

เช่น นายกรซื้อกางเกงยีนราคาส่งจากโรงงานราคา 100 บาทต่อตัวและนำไปขายต่อบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee ที่ราคา 150 บาทต่อตัว

การค้าระหว่างประเทศ (International Trading)

การค้าระหว่างประเทศคือการซื้อและการขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศ โดยนักลงทุนจะซื้อสินทรัพย์และ/หรือมีสินทรัพย์อยู่แล้วและขายสินทรัพย์เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ซึ่งนักลงทุนอาจจะตั้งราคาของสินทรัพย์ด้วยตนเองหรือขายสินทรัพย์ตามราคาตลาด

เช่น นายก้องขายทุเรียนราคาส่งให้แก่พ่อค้าในประเทศจีนในราคา 170 บาทต่อกิโลกรัม มีการติดต่อและทำสัญญาการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์และส่งสินค้าผ่านบริษัทผู้ให้บริการนำเข้าและส่งออก

เทรดเดอร์ คืออะไร?
เทรดเดอร์ คือคำที่ใช้เรียกบุคคลที่ซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงินในตลาดการเงินใด ๆ เช่น หุ้น Forex และคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเทรดเดอร์ คือคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษคำว่า Trader แปลว่าพ่อค้า นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ผู้ทำการค้า นักค้า และอื่น ๆ

วิธีการทำเงินจากการเทรด

การเทรดทั้ง 4 รูปแบบในข้างต้นมีวิธีการทำเงินที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้เราจะมาอธิบายวิธีการทำเงินของการเทรดทางการเงินและการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์เท่านั้น ดังนี้

วิธีการทำเงินจากการเทรด

วิธีการทำเงินจากการเทรดทางการเงิน

นักลงทุนสามารถทำเงินจากการซื้อและการขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น Forex และคริปโทเคอร์เรนซีด้วยวิธีการหรือหลักการณ์ดังต่อไปนี้ แต่ก่อนจะทำการซื้อต้องการศึกษาว่าคริปโตที่ดีที่สุดที่น่าซื้อคือคริปโตตัวไหนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์นั้น

ซื้อที่ราคาต่ำและขายที่ราคาสูง

ซื้อที่ราคาต่ำและขายที่ราคาสูง

นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ในราคาต่ำและขายสินทรัพย์ในราคาสูงกว่าเพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคา

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ต่ำโดยพิจารณาจากกราฟราคาย้อนหลังและตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น ใช้เส้น EMA50 ในการวิเคราะห์และพิจารณาจุดเข้าซื้อที่ดีที่สุดและขายในภายหลังเพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคา

การวิเคราะห์จากพื้นฐาน

การวิเคราะห์จากพื้นฐาน

นักลงทุนซื้อและขายสินทรัพย์จากการนำปัจจัยต่าง ๆ มาพิจารณา เช่น งบการเงินของบริษัท สภาพเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น และข่าวสารที่เกี่ยวของ

การซื้อและขายแบบรายวัน

การซื้อและขายแบบรายวัน

นักลงทุนซื้อและขายสินทรัพย์ภายในวันเดียวกัน โดยนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ในราคาต่ำและทำเงินจากส่วนต่างของราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนั้น เหมาะสำหรับสินทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็ว เช่น คริปโทเคอร์เรนซี

Swing Trading

นักลงทุนซื้อและขายสินทรัพย์ภายในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น 1 วัน 7 วัน และ 14 วัน มีหลักการณ์คล้ายคลึงกับการซื้อและขายแบบรายวัน แต่ Swing Trading คือการจับจังหวะการเข้าซื้อในช่วงที่ราคา ‘ย่อตัวลง’ ซึ่งอาจจะเกิดจากนักลงทุนรายใหญ่ขายสินทรัพย์เป็นจำนวนมากจนส่งผลให้ราคากลางลดลง จากนั้นให้นักลงทุนทำการเข้าซื้อสินทรัพย์ในจังหวะดังกล่าวและถือครองสินทรัพย์จนกว่าราคาจะกลับมาที่จุดเดิมและขายสินทรัพย์

การซื้อขายสวิง

Position Trading

Position Trading คือวิธีการเทรดที่มีหลักการณ์คล้ายคลึงกับ Swing Trading แต่ถือครองสินทรัพย์เป็นเวลานาน เช่น 1 เดือน 3 เดือน และ 1 ปี เพื่อการเก็งกำไรและรอขายเพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก

การซื้อขายตำแหน่ง

Leverage Trading

นักลงทุนกู้เงินจากโบรกเกอร์เพื่อขยายความสามารถในการซื้อสินทรัพย์ให้มากขึ้นตามอัตราส่วนที่กำหนด แต่นักลงทุนยังคงใช้เงินทุนในจำนวนเท่าเดิม

เช่น นักลงทุนซื้อเหรียญ Bitcoin ด้วย Leverage 10:1 ด้วยเงินลงทุน 10,000 บาท หมายถึง นักลงทุนใช้เงินทุนจริงของตนเองจำนวน 1,000 บาทและใช้เงินที่ยืมจากโบรกเกอร์ 9,000 บาทลงทุนในสินทรัพย์ เมื่อสินทรัพย์มีราคาสูงขึ้น นักลงทุนจะได้กำไร 10 หน่วยหรือเท่าตัว แต่ถ้าหากนักลงทุนลงทุนรูปแบบปกติ ผลกำไรจะเป็นไปตามเงินลงทุน 1 หน่วย

การซื้อขายเลเวอเรจ

วิธีการทำเงินจากการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์

นักลงทุนสามารถทำเงินจากการซื้อและการขายสินทรัพย์ที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน และเหล็ก ด้วยวิธีการหรือหลักการณ์ดังต่อไปนี้

Future Trading

Future Trading คือการการสร้างสัญญาการซื้อและการขายล่วงหน้า โดยในสัญญาจะระบุสินค้า ราคา ณ ปัจจุบัน และวันส่งมอบในอนาคต ซึ่งผู้ซื้อหรือหรือผู้ขายจะได้รับประโยชน์จากการซื้อขายรูปแบบนี้ได้ 2 กรณี

กรณีที่ 1: ราคาสินทรัพย์ต่ำกว่าที่ระบุในสัญญาในวันส่งมอบ

เช่น นายไก่ทำสัญญาซื้อขายน้ำตาลแบบฟิวเจอร์กับนายกบ โดยในสัญญาระบุราคา 10 บาทต่อกิโลกรัมและจะส่งมอบสินค้าใน 30 วันข้างหน้า

ปรากฏว่าในวันที่ส่งมอบสินค้า ราคากลางของน้ำตาลคือ 8 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้นายไก่เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากสัญญาการซื้อขายนี้เพราะสามารถขายน้ำตาลได้ราคาสูงกว่าราคาตลาด

กรณีที่ 2: ราคาสินทรัพย์สูงกว่าที่ระบุในสัญญาในวันส่งมอบ

เช่น นายบาสทำสัญญาซื้อขายข้างสารแบบฟิวเจอร์กับนายแบงค์ โดยในสัญญาระบุราคา 10 บาทต่อกิโลกรัมและจะส่งมอบสินค้าใน 30 วันข้างหน้า

ปรากฏว่าในวันที่ส่งมอบสินค้า ราคากลางขอข้าวสารคือ 12 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้นายแบงค์เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากสัญญาการซื้อขายนี้เพราะสามารถซื้อข้าวสารในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด

Spot Trading

Spot Trading คือการซื้อสินทรัพย์และนำไปขายต่อในทันที การเทรดรูปแบบนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเทรดแบบรายวัน เช่น นักลงทุนซื้อสินทรัพย์และถือครองเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เช่น 1 ชั่วโมงเพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

การเก็งกำไร

นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรและรอขายสินทรัพย์ในภายหลังและ/หรือในตลาดอื่น

แนะนำโบรกเกอร์ออนไลน์สำหรับการเทรด [รีวิวฉบับย่อ]

ปัจจุบันนี้ นักลงทุนสามารถทำการเทรดผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทำการตรวจสอบ คัดเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดเหล่านี้แล้ว และแนะนำโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้และได้รับการยอมรับในระดับสากล 4 ราย ดังนี้

1. XM

XM เป็นโบรกเกอร์เทรดออนไลน์ระดับนานาชาติที่มีฐานอยู่ในไซปรัส ให้ผู้ใช้งานเปิดบัญชีและเทรดในตลาดการเงินได้อย่างหลากหลาย พวกเขาให้บริการเทรดการเงินผ่านแพลตฟอร์มการเทรดอิเล็กทรอนิกส์หลายตัว รวมถึง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์ Expert Advisor (EA) ได้ พวกเขายังมีแอปเทรดมือถือของตัวเองในชื่อ XM – เทรดและลงทุน

XM

XM โดดเด่นด้วยการดูแลลูกค้าแบบครบวงจรและเข้าถึงได้ง่าย พวกเขามีทีมช่วยเหลือพร้อมให้บริการตลอดเวลาในหลายภาษา ผ่านหลากหลายช่องทาง ลูกค้าส่วนมากชื่นชมประสบการณ์การใช้งาน โดยเฉพาะในแง่ความไว้วางใจได้ เงื่อนไขการเทรดที่แข่งขันได้ และความรวดเร็วในการจัดการออเดอร์ ด้วยเหตุนี้ XM จึงเหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพในวงการเทรด

XM ดำเนินงานในหลายภูมิภาค จึงได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง เนื่องจากเหตุนี้ พวกเขาจึงถือว่ามีความปลอดภัยที่สูงในหลายๆ ภูมิภาค หน่วยงานที่ดูแลพวกเขาในแต่ละภูมิภาคคือ ASIC, FSC, DFSA และ CySEC

ผู้ให้บริการ XM
ปีที่ก่อตั้ง 2009
บริษัท XM Global Limited
ใบอนุญาต ASIC, FSC, DFSA, CySEC
ประเภทสินทรัพย์ • หุ้น
• ฟอเร็กซ์
• ดัชนี
• สินค้าโภคภัณฑ์
• กองทุนรวมดัชนี
• โลหะมีค่า
• น้ำมันและก๊าซ
• คริปโทเคอร์เรนซี
มีภาษาไทย ✅ มี
บัญชีทดลองเทรด ✅ มี
แอปพลิเคชัน iOS และ Andriod
วิธีการฝากเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) • Visa
• Mastercard
• Skrill
• Neteller
• การโอนเงินผ่านธนาคาร
วิธีการถอนเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) • Skrill
• Neteller
• การโอนเงินผ่านธนาคาร

ข้อดี

  • มี CFDs มากกว่า 1,000 รายการ รวมถึงคู่สกุลเงิน Forex 55 คู่
  • รองรับ MetaTrader เต็มรูปแบบ (MT4/MT5)
  • มีให้บริการในภาษาไทย พร้อมฝากถอนเงินด้วยธนาคารไทยได้
  • มีเครื่องมือเทรดให้เลือกใช้งานมากมาย
  • แหล่งข้อมูลการศึกษาที่หลากหลาย (เวบินาร์ บทความ ไลฟ์เซสชั่น)

ข้อเสีย

  • ค่าสเปรดบัญชีมาตรฐานไม่ค่อยถูกเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำบางราย

2. Pepperstone

Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ดำเนินการโดยบริษัท Pepperstone Markets Limited สหรัฐอเมริกา ได้รับใบอนุญาตและถูกควบคุมโดย The Securities Commission of The Bahamas (SIA-F217) และได้รับรางวัลโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมจากเวทีการประกวด Investment Trends, Deloitte และ Governor of Victoria

Pepperstone

Pepperstone รองรับการเทรดสินทรัพย์ 5 ประเภท ได้แก่ หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนรวมดัชนี และคริปโทเคอร์เรนซี มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือก 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ TradingView, MetaTrader 5, MetaTrader 4 และ cTrader ซึ่งแพลตฟอร์มทั้งหมดมีการปรับปรุงและพัฒนาระบบและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

Pepperstone มีฟังก์ชันการคัดลอกการซื้อขาย (Copy Trading) ที่สามารถดูรายการสินทรัพย์การของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จและคัดลอกการเทรดได้ ถือว่าเป็นโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ที่ดีที่สุดและผู้ใช้งานสามารถใช้บัญชีทดลอง (Demo) ซึ่งมีเครดิตจำลองเริ่มต้นที่ $50,000 เพื่อศึกษาและเรียนรู้วิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการเทรดได้ฟรี

ผู้ให้บริการ Pepperstone
ปีที่ก่อตั้ง 2010
บริษัท Pepperstone Markets Limited
ใบอนุญาต The Securities Commission of The Bahamas (SIA-F217)
ประเภทสินทรัพย์
  • หุ้น
  • ดัชนี
  • สินค้าโภคภัณฑ์
  • กองทุนรวมดัชนี
  • คริปโทเคอร์เรนซี
มีภาษาไทย ✅ มี
บัญชีทดลองเทรด ✅ เครดิตจำลองเริ่มต้นที่ $50,000
แอปพลิเคชัน iOS และ Andriod
วิธีการฝากเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย)
  • Visa
  • Skrill
  • USDT
  • PayPal
  • Neteller
  • Mastercard
  • การโอนเงินผ่านธนาคาร
วิธีการถอนเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย)
  • Skrill
  • USDT
  • Neteller
  • การโอนเงินผ่านธนาคาร

ข้อดี

  • แพลตฟอร์มใช้งานง่าย
  • สเปรดต่ำสุดเริ่มต้นที่ 0.0 pips
  • มีวิธีการฝากเงินให้เลือกหลายวิธีการ
  • มีตราสารให้เลือกมากกว่า 700 รายการ
  • มีเครื่องมือการเทรดให้เลือกหลายเครื่องมือ

ข้อเสีย

  • มีตัวเลือกในการถอนเงินน้อย

3. PrimeXBT

PrimeXBT เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 ดำเนินการโดยบริษัท Prime Technology Limited ประเทศเซเชลส์ ได้รับใบอนุญาตและถูกควบคุมโดย Financial Crime Investigation Service (FCIS) และได้รับรางวัลโบรกเกอร์ออนไลน์ที่นำเสนอการบริการและเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมจากเวทีการประกวดหลายเวที เช่น Peru Blockchain Conference, International Business Magazine และ ADVFN International Financial Awards

PrimeXBT รองรับการเทรดสินทรัพย์ 6 ประเภท ได้แก่ หุ้น ดัชนี Forex สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนรวมดัชนี และคริปโทเคอร์เรนซี มีค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pip มีเครื่องมือที่ช่วยในการเทรด เช่น คลังความรู้เกี่ยวกับการลงทุนที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ฟรี ปฏิทินเศรษฐกิจที่จะระบุเหตุการณ์ที่สำคัญที่นักลงทุนสามารถตรวจสอบและนำไปพิจารณาในการลงทุน และกราฟราคาที่นักลงทุนสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ได้แบบเรียลไทม์

PrimeXBT

PrimeXBT มีฟังก์ชันการคัดลอกการซื้อขาย (Copy Trading) ที่นักลงทุนสามารถดูรายการสินทรัพย์การของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จและคัดลอกการเทรดได้ มีบัญชีทดลองเทรดที่มีเครดิตจำลองเริ่มต้นที่ $1,000 และนักลงทุนสามารถแบ่งปันรายการสินทรัพย์และกลยุทธ์การเทรดของตนเองแบบสาธารณะเพื่อรับส่วนแบ่งสูงสุด 20%

ผู้ให้บริการ PrimeXBT
ปีที่ก่อตั้ง 2018
บริษัท Prime Technology Limited
ใบอนุญาต Financial Crime Investigation Service (FCIS)
ประเภทสินทรัพย์
  • หุ้น
  • ดัชนี
  • Forex
  • สินค้าโภคภัณฑ์
  • กองทุนรวมดัชนี
  • คริปโทเคอร์เรนซี
มีภาษาไทย ✅ มี
บัญชีทดลองเทรด ✅ เครดิตจำลอง $1,000
แอปพลิเคชัน iOS และ Andriod
วิธีการฝากเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย)
  • Visa
  • PromptPay
  • Mastercard
  • ธนาคารออนไลน์
  • คริปโทเคอร์เรนซี
  • True Money Wallet
วิธีการถอนเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย)
  • คริปโทเคอร์เรนซี
  • การโอนเงินผ่านธนาคาร

ข้อดี

  • แพลตฟอร์มใช้งานง่าย
  • ค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ 0 บาท
  • มีวิธีการฝากเงินให้เลือกหลายวิธีการ
  • มีตราสารให้เลือกมากกว่า 100 รายการ
  • มีการสนับสนุนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ข้อเสีย

  • ระยะเวลาในการถอนเงินประมาณ 3-7 วัน

4. eToro

eToro เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 ดำเนินการโดยบริษัท eToro (Europe) Limited ประเทศไซปรัส (สำนักงานใหญ่) และมีสำนักย่อยในอีก 7 ประเทศทั่วโลก ได้รับใบอนุญาตและถูกควบคุมโดย Cyprus Securities Exchange Commission (CySEC) และหน่วยงานอื่นอีก 6 หน่วยงาน และเป็นสปอนเซอร์ให้แก่สโมสรฟุตบอลชื่อดังระดับโลกหลายสโมสร เช่น West Ham United F.C., Arsenal F.C. และ Everton F.C.

eToro เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในระดับแนวหน้าของโลก เพราะรองรับการเทรดสินทรัพย์ 8 ประเภท ได้แก่ หุ้น ดัชนี NFT Forex กองทุน ETF สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนรวมดัชนี และคริปโทเคอร์เรนซีรวมแล้วมากกว่า 6,000 รายการ มีวิธีการฝากและถอนเงินให้เลือกหลายวิธีการซึ่งนักลงทุนภายในประเทศไทยสามารถทำรายการผ่านบัตรธนาคารและการโอนเงินผ่านธนาคาร และมีการสนับสนุนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

eToro

eToro เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่มีชื่อเสียงมาจากฟังก์ชันการคัดลอกการซื้อขาย (Copy Trading) ที่นักลงทุนสามารถดูรายการสินทรัพย์การของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จและคัดลอกการเทรดได้ และมีฟีดที่นักลงทุนสามารถถูดคุย แสดงความคิดเห็น และ/หรือแบ่งปันสิ่งที่เป็นประโยชน์ เช่น ความรู้เรื่องการลงทุน ซึ่งถ้าหากนักลงทุนประสบความสำเร็จในการเทรดและมีผู้ติดตามบัญชีเป็นจำนวนมาก นักลงทุนสามารถสมัครโปรแกรมการคัดลอกการซื้อขายเพื่อรับส่วนแบ่งเป็นรายได้แบบ Passive Income ได้

โปรดทราบว่ารีวิวโบกเกอร์ออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดฉบับย่อนี้ได้รับการรวบรวมข้อมูลและถูกเขียนรีวิวขึ้นในวันที่ 3 กันยายน 2024 นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลและมีพื้นฐานมาจากประสบการณ์การใช้งานของเรา

นักลงทุนและ/หรือผู้ใช้งานแต่ละรายอาจจะได้รับประสบการณ์และมีความคิดเห็นที่เหมือนและแตกต่างกัน ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ

ผู้ให้บริการ eToro
ปีที่ก่อตั้ง 2006
บริษัท eToro (Europe) Limited
ใบอนุญาต
  • Cyprus Securities Exchange Commission (CySEC)
  • Financial Conduct Authority (FCA)
  • Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
  • Financial Services Authority Seychelles (FSAS)
  • Abu Dhabi Global Market (ADGM)
  • Financial Services Regulatory Authority (FSRA)
  • Financial Services and Market Regulations 2015 (FSMR)
ประเภทสินทรัพย์
  • หุ้น
  • ดัชนี
  • NFT
  • Forex
  • กองทุน ETF
  • สินค้าโภคภัณฑ์
  • กองทุนรวมดัชนี
  • คริปโทเคอร์เรนซี
มีภาษาไทย ✅ มี
บัญชีทดลองเทรด ✅ เครดิตจำลอง $100,000
แอปพลิเคชัน iOS และ Andriod
วิธีการฝากเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย)
  • Visa
  • Mastercard
  • ธนาคารออนไลน์
วิธีการถอนเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย)
  • การโอนเงินผ่านธนาคาร

ข้อดี

  • แพลตฟอร์มใช้งานง่าย
  • มีตราสารให้เลือกมากกว่า 6,000 รายการ
  • มีดอกเบี้ยสำหรับการฝากเงินสูงสุด 5.3%
  • มีการสนับสนุนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
  • มีคอร์ส การบรรยาย และสัมนาออนไลน์เกี่ยวกับการลงทุนให้เข้าร่วมฟรี

ข้อเสีย

  • ไม่มีการสนับสนุนภาษาไทย
  • ระยะเวลาในการถอนเงินประมาณ 3-7 วัน
  • เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์บางส่วนยังไม่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย

วิธีเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์สำหรับนักลงทุนมือใหม่

วิธีการเทรดในปัจจุบันมีความสะดวกและรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพราะนักลงทุนสามารถเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำเป็นต้องนำส่งเอกสารบางอย่างเพื่อการยืนยันตัวตน การรักษาความปลอดภัยของบัญชี และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันการฟอกเงิน

หากนักลงทุนยังไม่เคยเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์มาก่อน นักลงทุนสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่เราแนะนำ ดังนี้

  1. ขั้นตอนที่ 1: เปิดบัญชีเทรด

    Pepperstone คือโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เราอยากแนะนำมากที่สุดสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เพราะผู้ให้บริการรายนี้เชื่อถือได้ มีเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์เป็นภาษาไทย หน้าเว็บไซต์ใช้งานง่าย และมีวิธีการเปิดบัญชีที่ง่ายดาย ให้นักลงทุนไปที่หน้าแรกของเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Pepperstone และคลิกที่ปุ่ม ‘เปิดบัญชีเทรดจริง’ จากนั้นเลือกวิธีการลงทะเบียนวิธีการใด ๆ ระหว่าง Apple, Google, Facebook หรืออีเมล จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ประเทศที่พำนัก ชื่อ และนามสกุล ลงในช่องที่กำหนดให้ครบถ้วนและคลิกที่ปุ่ม ‘ดำเนินการต่อ’
  2. ขั้นตอนที่ 2: ตอบคำถาม

    ให้นักลงทุนตอบคำถามที่กำหนดให้ครบถ้วน เช่น ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในเบื้องต้น เป้าหมายของการลงทุน และเงินทุนที่นักลงทุนสามารถทำใจยอมรับกับความเสี่ยงได้
  3. Schritt 3: ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันการมีชีวิต

    นักลงทุนทำการยืนยันตนเองว่าเป็นมนุษย์จริงผ่านขั้นตอนการสแกนหน้าซึ่งสามารถทำผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือ อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้นักลงทุนทำการยืนยันผ่านมือถือเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความไม่คมชัดของภาพและวิดีโอซึ่งอาจจะทำให้การยืนยันไม่สำเร็จ
  4. ขั้นตอนที่ 4: ยืนยันตัวตน

    นักลงทุนนำส่งเอกสารทางกฎหมายเพื่อการยืนยันตัวตน เช่น ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน รวมไปถึงเอกสารยืนยันที่อยู่ เช่น ใบแจ้งหนี้ ที่ระบุชื่อ นามสกุล และที่อยู่ของนักลงทุน เจ้าหน้าที่ของ Pepperstone จะใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลประมาณ 1-3 วันและจะแจ้งผลลัพธ์ผ่านทางอีเมลและ/หรือ SMS เบอร์โทรศัพท์ที่นักลงทุนกรอกในขั้นตอนการลงทะเบียน
  5. ขั้นตอนที่ 5: เติมเครดิต

    เมื่อบัญชีเทรดของนักลงทุนได้ผ่านการอนุมัติแล้ว นักลงทุนสามารถลงชื่อเข้าใช้งานได้ในทันที ให้นักลงทุนไปที่โปรไฟล์และคลิก ‘การฝากเงิน’ เลือกวิธีการชำระเงินวิธีการใด ๆ เช่น Visa กรอกจำนวนเงินที่ต้องการเติมเป็นเครดิตเข้าสู่บัญชี และดำเนินการชำระเงินให้สำเร็จ เมื่อยอดเครดิตถูกอัปเดตในบัญชีเทรดของนักลงทุนแล้ว นักลงทุนสามารถเริ่มต้มการเทรดได้ในทันที

คำแนะนำเทรดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

การเทรดมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด นักลงทุนควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

1. ลงทุนด้วยเงินเย็น

นักลงทุนควรเทรดด้วยเงินเย็นเท่านั้น ซึ่งเงินเย็นคือเงินเก็บที่ยังไม่ได้ถูกวางแผนว่าจะถูกนำไปใช้ประโยชน์อะไรต่อไปในอนาคต เช่น ไม่ใช่เงินสำรองเพื่อการชำระหนี้ เป็นต้น — กล่าวโดยง่ายคือ เป็นเงินที่ถ้าหากสูญไปแล้วจะไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อชีวิตประจำวันของนักลงทุน

2. มีแผนสำรอง

นักลงทุนควรวางแผนสำรองเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการลงทุน เช่น ราคาสินทรัพย์ได้ลดลงจากปัจจัยบางอย่างที่คาดไม่ถึง ซึ่งถ้าหากนักลงทุนมีแผนสำรอง เช่น เงินเย็นสำหรับการถัวเฉลี่ยราคาสินทรัพย์ นี่อาจจะช่วยบรรเทาการขาดทุนของนักลงทุนได้ส่วนหนึ่ง

3. ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน

นักลงทุนควรศึกษาว่าคริปโตคืออะไร สินทรัพย์ดิจิทัลคืออะไร และทำความเข้าใจในสินทรัพย์ใด ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เช่น หากนักลงทุนต้องการลงทุนในหุ้น Apple นักลงทุนควรศึกษารายละเอียดธุรกิจ กลุ่มลูกค้า และตรวจสอบงบการเงินย้อนหลัง รวมไปถึงการติดตามข่าวสารระหว่างการลงทุนอยู่เสมอ

4. ใช้กลยุทธ์ในการเทรด

นักลงทุนควรศึกษาและใช้กลยุทธ์ในการเทรด เช่น การอ่านกราฟ การเทรดตามเส้น EMA50 หรือจะใช้บริการกับแพลตฟอร์ม copy trading ที่ดีที่สุด และการเทรดตามวัฏจักรหุ้นตามทฤฎษีดาว (Dow Theory) เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาสินทรัพย์ จุดเข้าซื้อที่ดี และจุดที่ต้องเฝ้าระวัง

5. ทำการฝึกฝน

หากนักลงทุนยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนหรือมีประสบการณ์ค่อนข้างน้อย เราขอแนะนำให้นักลงทุนฝึกฝนผ่านบัญชีทดลอง (Demo) เพื่อศึกษาเครื่องมือและวิธีการเทรดให้เข้าใจอย่างถ่องแท้พร้อมกับการทดลองการใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ก่อนทำการเทรดด้วยเงินจริง

บทสรุป

การเทรดคือกระบวนการในการซื้อและขายสินทรัพย์ โดยนักลงทุนทำการซื้อสินทรัพย์เพื่อถือครองและทำการขายสินทรัพย์เพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคา เช่น ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ถูกกว่าและขายสินทรัพย์ในราคาที่แพงกว่า สินทรัพย์ที่นักลงทุนสามารถทำการเทรดมีหลากหลายประเภท เช่น หุ้น ทองคำ และคริปโทเคอร์เรนซี

ปัจจุบันนี้ นักลงทุนสามารถทำการเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์ ผู้เชี่ยวชาญของเราได้คัดเลือกและแนะนำโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ดีที่สุด 3 รายการซึ่ง Pepperstone คือโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ได้รับการแนะนำมาเป็นอันดับ 1 เพราะผู้ให้บริการรายนี้เชื่อถือได้ มีสินทรัพย์หลากหลายประเภทให้เลือก ฝากและถอนเงินง่าย และมีคุณสมบัติดี ๆ อีกหลายประการ

คำถามที่พบบ่อย

การเทรดคืออะไรและทำเงินอย่างไร

มีสินทรัพย์อะไรบ้างที่ฉันสามารถเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์

เทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์ต่างประเทศเชื่อถือได้และปลอดภัยหรือไม่