การเทรดคืออะไรและมีวิธีการทำเงินอย่างไรเป็นคำถามที่นักลงทุนมือใหม่หลายคนต่างตั้งคำถาม
บทความนี้จะนำพาคุณผู้อ่านทุกท่านได้เรียนรู้วิธีการเทรดอย่างละเอียด วิธีการทำเงินจากการเทรด แนะนำโบรกเกอร์ออนไลน์สำหรับการเทรดที่เชื่อถือได้ วิธีเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์ และคำแนะนำเทรดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
โปรดทราบว่าการลงทุนมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน!
การเทรดคืออะไร
การเทรด (Trading) คือกระบวนการในการซื้อและขายสินทรัพย์ วิธีการทำเงินจากการเทรดคือนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ถือครองและขายสินทรัพย์เพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคา ซึ่งการเทรดมี 4 รูปแบบ ดังนี้
การเทรดทางการเงิน (Financial Trading)
การเทรดทางการเงินคือการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น Forex และพันธบัตร โดยนักลงทุนจะถือครองสินทรัพย์และรอขายเมื่อราคาสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก
เช่น นายไก่ซื้อหุ้น Amazon ที่ราคา $170 เมื่อเดือนมิถุนายน 2024 และขายหุ้นที่ราคาตลาดที่ $175 เมื่อเดือนสิงหาคม 2024
การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Trading)
การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์คือการซื้อและขายสินทรัพย์ที่เป็นวัตถุ เช่น ทองคำ น้ำมัน และเหล็ก โดยนักลงทุนจะถือครองสินทรัพย์และรอขายเมื่อราคาสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก
เช่น นายกบซื้อทองคำแท่งที่ราคาประมาณ 25,000 บาทเมื่อเดือนมกราคม 2023 และขายทองคำแท่งที่ราคาตลาดที่ประมาณ 38,000 บาทเมื่อเดือนสิงหาคม 2024
การค้าปลีก (Retail Trading)
การค้าปลีกคือการซื้อสินค้าและขายต่อให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง เช่น อาหาร เสื้อผ้า และยา โดยนักลงทุนจะซื้อสินทรัพย์และ/หรือมีสินทรัพย์อยู่แล้วและขายสินทรัพย์เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ซึ่งนักลงทุนอาจจะตั้งราคาของสินทรัพย์ด้วยตนเองหรือขายสินทรัพย์ตามราคาตลาด
เช่น นายกรซื้อกางเกงยีนราคาส่งจากโรงงานราคา 100 บาทต่อตัวและนำไปขายต่อบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee ที่ราคา 150 บาทต่อตัว
การค้าระหว่างประเทศ (International Trading)
การค้าระหว่างประเทศคือการซื้อและการขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศ โดยนักลงทุนจะซื้อสินทรัพย์และ/หรือมีสินทรัพย์อยู่แล้วและขายสินทรัพย์เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ซึ่งนักลงทุนอาจจะตั้งราคาของสินทรัพย์ด้วยตนเองหรือขายสินทรัพย์ตามราคาตลาด
เช่น นายก้องขายทุเรียนราคาส่งให้แก่พ่อค้าในประเทศจีนในราคา 170 บาทต่อกิโลกรัม มีการติดต่อและทำสัญญาการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์และส่งสินค้าผ่านบริษัทผู้ให้บริการนำเข้าและส่งออก
เทรดเดอร์ คืออะไร? |
เทรดเดอร์ คือคำที่ใช้เรียกบุคคลที่ซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงินในตลาดการเงินใด ๆ เช่น หุ้น Forex และคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเทรดเดอร์ คือคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษคำว่า Trader แปลว่าพ่อค้า นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ผู้ทำการค้า นักค้า และอื่น ๆ |
วิธีการทำเงินจากการเทรด
การเทรดทั้ง 4 รูปแบบในข้างต้นมีวิธีการทำเงินที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้เราจะมาอธิบายวิธีการทำเงินของการเทรดทางการเงินและการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์เท่านั้น ดังนี้
วิธีการทำเงินจากการเทรดทางการเงิน
นักลงทุนสามารถทำเงินจากการซื้อและการขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น Forex และคริปโทเคอร์เรนซีด้วยวิธีการหรือหลักการณ์ดังต่อไปนี้ แต่ก่อนจะทำการซื้อต้องการศึกษาว่าคริปโตที่ดีที่สุดที่น่าซื้อคือคริปโตตัวไหนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์นั้น
Swing Trading
นักลงทุนซื้อและขายสินทรัพย์ภายในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น 1 วัน 7 วัน และ 14 วัน มีหลักการณ์คล้ายคลึงกับการซื้อและขายแบบรายวัน แต่ Swing Trading คือการจับจังหวะการเข้าซื้อในช่วงที่ราคา ‘ย่อตัวลง’ ซึ่งอาจจะเกิดจากนักลงทุนรายใหญ่ขายสินทรัพย์เป็นจำนวนมากจนส่งผลให้ราคากลางลดลง จากนั้นให้นักลงทุนทำการเข้าซื้อสินทรัพย์ในจังหวะดังกล่าวและถือครองสินทรัพย์จนกว่าราคาจะกลับมาที่จุดเดิมและขายสินทรัพย์
Position Trading
Position Trading คือวิธีการเทรดที่มีหลักการณ์คล้ายคลึงกับ Swing Trading แต่ถือครองสินทรัพย์เป็นเวลานาน เช่น 1 เดือน 3 เดือน และ 1 ปี เพื่อการเก็งกำไรและรอขายเพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวก
Leverage Trading
นักลงทุนกู้เงินจากโบรกเกอร์เพื่อขยายความสามารถในการซื้อสินทรัพย์ให้มากขึ้นตามอัตราส่วนที่กำหนด แต่นักลงทุนยังคงใช้เงินทุนในจำนวนเท่าเดิม
เช่น นักลงทุนซื้อเหรียญ Bitcoin ด้วย Leverage 10:1 ด้วยเงินลงทุน 10,000 บาท หมายถึง นักลงทุนใช้เงินทุนจริงของตนเองจำนวน 1,000 บาทและใช้เงินที่ยืมจากโบรกเกอร์ 9,000 บาทลงทุนในสินทรัพย์ เมื่อสินทรัพย์มีราคาสูงขึ้น นักลงทุนจะได้กำไร 10 หน่วยหรือเท่าตัว แต่ถ้าหากนักลงทุนลงทุนรูปแบบปกติ ผลกำไรจะเป็นไปตามเงินลงทุน 1 หน่วย
วิธีการทำเงินจากการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์
นักลงทุนสามารถทำเงินจากการซื้อและการขายสินทรัพย์ที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน และเหล็ก ด้วยวิธีการหรือหลักการณ์ดังต่อไปนี้
Future Trading
Future Trading คือการการสร้างสัญญาการซื้อและการขายล่วงหน้า โดยในสัญญาจะระบุสินค้า ราคา ณ ปัจจุบัน และวันส่งมอบในอนาคต ซึ่งผู้ซื้อหรือหรือผู้ขายจะได้รับประโยชน์จากการซื้อขายรูปแบบนี้ได้ 2 กรณี
กรณีที่ 1: ราคาสินทรัพย์ต่ำกว่าที่ระบุในสัญญาในวันส่งมอบ
เช่น นายไก่ทำสัญญาซื้อขายน้ำตาลแบบฟิวเจอร์กับนายกบ โดยในสัญญาระบุราคา 10 บาทต่อกิโลกรัมและจะส่งมอบสินค้าใน 30 วันข้างหน้า
ปรากฏว่าในวันที่ส่งมอบสินค้า ราคากลางของน้ำตาลคือ 8 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้นายไก่เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากสัญญาการซื้อขายนี้เพราะสามารถขายน้ำตาลได้ราคาสูงกว่าราคาตลาด
กรณีที่ 2: ราคาสินทรัพย์สูงกว่าที่ระบุในสัญญาในวันส่งมอบ
เช่น นายบาสทำสัญญาซื้อขายข้างสารแบบฟิวเจอร์กับนายแบงค์ โดยในสัญญาระบุราคา 10 บาทต่อกิโลกรัมและจะส่งมอบสินค้าใน 30 วันข้างหน้า
ปรากฏว่าในวันที่ส่งมอบสินค้า ราคากลางขอข้าวสารคือ 12 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้นายแบงค์เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากสัญญาการซื้อขายนี้เพราะสามารถซื้อข้าวสารในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด
Spot Trading
Spot Trading คือการซื้อสินทรัพย์และนำไปขายต่อในทันที การเทรดรูปแบบนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเทรดแบบรายวัน เช่น นักลงทุนซื้อสินทรัพย์และถือครองเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เช่น 1 ชั่วโมงเพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การเก็งกำไร
นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรและรอขายสินทรัพย์ในภายหลังและ/หรือในตลาดอื่น
แนะนำโบรกเกอร์ออนไลน์สำหรับการเทรด [รีวิวฉบับย่อ]
ปัจจุบันนี้ นักลงทุนสามารถทำการเทรดผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทำการตรวจสอบ คัดเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดเหล่านี้แล้ว และแนะนำโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้และได้รับการยอมรับในระดับสากล 4 ราย ดังนี้
1. XM
XM เป็นโบรกเกอร์เทรดออนไลน์ระดับนานาชาติที่มีฐานอยู่ในไซปรัส ให้ผู้ใช้งานเปิดบัญชีและเทรดในตลาดการเงินได้อย่างหลากหลาย พวกเขาให้บริการเทรดการเงินผ่านแพลตฟอร์มการเทรดอิเล็กทรอนิกส์หลายตัว รวมถึง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์ Expert Advisor (EA) ได้ พวกเขายังมีแอปเทรดมือถือของตัวเองในชื่อ XM – เทรดและลงทุน
XM โดดเด่นด้วยการดูแลลูกค้าแบบครบวงจรและเข้าถึงได้ง่าย พวกเขามีทีมช่วยเหลือพร้อมให้บริการตลอดเวลาในหลายภาษา ผ่านหลากหลายช่องทาง ลูกค้าส่วนมากชื่นชมประสบการณ์การใช้งาน โดยเฉพาะในแง่ความไว้วางใจได้ เงื่อนไขการเทรดที่แข่งขันได้ และความรวดเร็วในการจัดการออเดอร์ ด้วยเหตุนี้ XM จึงเหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพในวงการเทรด
XM ดำเนินงานในหลายภูมิภาค จึงได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง เนื่องจากเหตุนี้ พวกเขาจึงถือว่ามีความปลอดภัยที่สูงในหลายๆ ภูมิภาค หน่วยงานที่ดูแลพวกเขาในแต่ละภูมิภาคคือ ASIC, FSC, DFSA และ CySEC
ผู้ให้บริการ | XM |
---|---|
ปีที่ก่อตั้ง | 2009 |
บริษัท | XM Global Limited |
ใบอนุญาต | ASIC, FSC, DFSA, CySEC |
ประเภทสินทรัพย์ | • หุ้น • ฟอเร็กซ์ • ดัชนี • สินค้าโภคภัณฑ์ • กองทุนรวมดัชนี • โลหะมีค่า • น้ำมันและก๊าซ • คริปโทเคอร์เรนซี |
มีภาษาไทย | ✅ มี |
บัญชีทดลองเทรด | ✅ มี |
แอปพลิเคชัน | iOS และ Andriod |
วิธีการฝากเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) | • Visa • Mastercard • Skrill • Neteller • การโอนเงินผ่านธนาคาร |
วิธีการถอนเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) | • Skrill • Neteller • การโอนเงินผ่านธนาคาร |
ข้อดี
- มี CFDs มากกว่า 1,000 รายการ รวมถึงคู่สกุลเงิน Forex 55 คู่
- รองรับ MetaTrader เต็มรูปแบบ (MT4/MT5)
- มีให้บริการในภาษาไทย พร้อมฝากถอนเงินด้วยธนาคารไทยได้
- มีเครื่องมือเทรดให้เลือกใช้งานมากมาย
- แหล่งข้อมูลการศึกษาที่หลากหลาย (เวบินาร์ บทความ ไลฟ์เซสชั่น)
ข้อเสีย
- ค่าสเปรดบัญชีมาตรฐานไม่ค่อยถูกเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำบางราย
2. Pepperstone
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ดำเนินการโดยบริษัท Pepperstone Markets Limited สหรัฐอเมริกา ได้รับใบอนุญาตและถูกควบคุมโดย The Securities Commission of The Bahamas (SIA-F217) และได้รับรางวัลโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมจากเวทีการประกวด Investment Trends, Deloitte และ Governor of Victoria
Pepperstone รองรับการเทรดสินทรัพย์ 5 ประเภท ได้แก่ หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนรวมดัชนี และคริปโทเคอร์เรนซี มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือก 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ TradingView, MetaTrader 5, MetaTrader 4 และ cTrader ซึ่งแพลตฟอร์มทั้งหมดมีการปรับปรุงและพัฒนาระบบและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
Pepperstone มีฟังก์ชันการคัดลอกการซื้อขาย (Copy Trading) ที่สามารถดูรายการสินทรัพย์การของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จและคัดลอกการเทรดได้ ถือว่าเป็นโบรกเกอร์หุ้นออนไลน์ที่ดีที่สุดและผู้ใช้งานสามารถใช้บัญชีทดลอง (Demo) ซึ่งมีเครดิตจำลองเริ่มต้นที่ $50,000 เพื่อศึกษาและเรียนรู้วิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการเทรดได้ฟรี
ผู้ให้บริการ | Pepperstone |
ปีที่ก่อตั้ง | 2010 |
บริษัท | Pepperstone Markets Limited |
ใบอนุญาต | The Securities Commission of The Bahamas (SIA-F217) |
ประเภทสินทรัพย์ |
|
มีภาษาไทย | ✅ มี |
บัญชีทดลองเทรด | ✅ เครดิตจำลองเริ่มต้นที่ $50,000 |
แอปพลิเคชัน | iOS และ Andriod |
วิธีการฝากเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) |
|
วิธีการถอนเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) |
|
ข้อดี
- แพลตฟอร์มใช้งานง่าย
- สเปรดต่ำสุดเริ่มต้นที่ 0.0 pips
- มีวิธีการฝากเงินให้เลือกหลายวิธีการ
- มีตราสารให้เลือกมากกว่า 700 รายการ
- มีเครื่องมือการเทรดให้เลือกหลายเครื่องมือ
ข้อเสีย
- มีตัวเลือกในการถอนเงินน้อย
3. PrimeXBT
PrimeXBT เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 ดำเนินการโดยบริษัท Prime Technology Limited ประเทศเซเชลส์ ได้รับใบอนุญาตและถูกควบคุมโดย Financial Crime Investigation Service (FCIS) และได้รับรางวัลโบรกเกอร์ออนไลน์ที่นำเสนอการบริการและเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมจากเวทีการประกวดหลายเวที เช่น Peru Blockchain Conference, International Business Magazine และ ADVFN International Financial Awards
PrimeXBT รองรับการเทรดสินทรัพย์ 6 ประเภท ได้แก่ หุ้น ดัชนี Forex สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนรวมดัชนี และคริปโทเคอร์เรนซี มีค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pip มีเครื่องมือที่ช่วยในการเทรด เช่น คลังความรู้เกี่ยวกับการลงทุนที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ฟรี ปฏิทินเศรษฐกิจที่จะระบุเหตุการณ์ที่สำคัญที่นักลงทุนสามารถตรวจสอบและนำไปพิจารณาในการลงทุน และกราฟราคาที่นักลงทุนสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ได้แบบเรียลไทม์
PrimeXBT มีฟังก์ชันการคัดลอกการซื้อขาย (Copy Trading) ที่นักลงทุนสามารถดูรายการสินทรัพย์การของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จและคัดลอกการเทรดได้ มีบัญชีทดลองเทรดที่มีเครดิตจำลองเริ่มต้นที่ $1,000 และนักลงทุนสามารถแบ่งปันรายการสินทรัพย์และกลยุทธ์การเทรดของตนเองแบบสาธารณะเพื่อรับส่วนแบ่งสูงสุด 20%
ผู้ให้บริการ | PrimeXBT |
ปีที่ก่อตั้ง | 2018 |
บริษัท | Prime Technology Limited |
ใบอนุญาต | Financial Crime Investigation Service (FCIS) |
ประเภทสินทรัพย์ |
|
มีภาษาไทย | ✅ มี |
บัญชีทดลองเทรด | ✅ เครดิตจำลอง $1,000 |
แอปพลิเคชัน | iOS และ Andriod |
วิธีการฝากเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) |
|
วิธีการถอนเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) |
|
ข้อดี
- แพลตฟอร์มใช้งานง่าย
- ค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ 0 บาท
- มีวิธีการฝากเงินให้เลือกหลายวิธีการ
- มีตราสารให้เลือกมากกว่า 100 รายการ
- มีการสนับสนุนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อเสีย
- ระยะเวลาในการถอนเงินประมาณ 3-7 วัน
4. eToro
eToro เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 ดำเนินการโดยบริษัท eToro (Europe) Limited ประเทศไซปรัส (สำนักงานใหญ่) และมีสำนักย่อยในอีก 7 ประเทศทั่วโลก ได้รับใบอนุญาตและถูกควบคุมโดย Cyprus Securities Exchange Commission (CySEC) และหน่วยงานอื่นอีก 6 หน่วยงาน และเป็นสปอนเซอร์ให้แก่สโมสรฟุตบอลชื่อดังระดับโลกหลายสโมสร เช่น West Ham United F.C., Arsenal F.C. และ Everton F.C.
eToro เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในระดับแนวหน้าของโลก เพราะรองรับการเทรดสินทรัพย์ 8 ประเภท ได้แก่ หุ้น ดัชนี NFT Forex กองทุน ETF สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนรวมดัชนี และคริปโทเคอร์เรนซีรวมแล้วมากกว่า 6,000 รายการ มีวิธีการฝากและถอนเงินให้เลือกหลายวิธีการซึ่งนักลงทุนภายในประเทศไทยสามารถทำรายการผ่านบัตรธนาคารและการโอนเงินผ่านธนาคาร และมีการสนับสนุนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
eToro เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่มีชื่อเสียงมาจากฟังก์ชันการคัดลอกการซื้อขาย (Copy Trading) ที่นักลงทุนสามารถดูรายการสินทรัพย์การของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จและคัดลอกการเทรดได้ และมีฟีดที่นักลงทุนสามารถถูดคุย แสดงความคิดเห็น และ/หรือแบ่งปันสิ่งที่เป็นประโยชน์ เช่น ความรู้เรื่องการลงทุน ซึ่งถ้าหากนักลงทุนประสบความสำเร็จในการเทรดและมีผู้ติดตามบัญชีเป็นจำนวนมาก นักลงทุนสามารถสมัครโปรแกรมการคัดลอกการซื้อขายเพื่อรับส่วนแบ่งเป็นรายได้แบบ Passive Income ได้
โปรดทราบว่ารีวิวโบกเกอร์ออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดฉบับย่อนี้ได้รับการรวบรวมข้อมูลและถูกเขียนรีวิวขึ้นในวันที่ 3 กันยายน 2024 นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลและมีพื้นฐานมาจากประสบการณ์การใช้งานของเรา
นักลงทุนและ/หรือผู้ใช้งานแต่ละรายอาจจะได้รับประสบการณ์และมีความคิดเห็นที่เหมือนและแตกต่างกัน ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ
ผู้ให้บริการ | eToro |
ปีที่ก่อตั้ง | 2006 |
บริษัท | eToro (Europe) Limited |
ใบอนุญาต |
|
ประเภทสินทรัพย์ |
|
มีภาษาไทย | ✅ มี |
บัญชีทดลองเทรด | ✅ เครดิตจำลอง $100,000 |
แอปพลิเคชัน | iOS และ Andriod |
วิธีการฝากเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) |
|
วิธีการถอนเงิน (สำหรับลูกค้าในประเทศไทย) |
|
ข้อดี
- แพลตฟอร์มใช้งานง่าย
- มีตราสารให้เลือกมากกว่า 6,000 รายการ
- มีดอกเบี้ยสำหรับการฝากเงินสูงสุด 5.3%
- มีการสนับสนุนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
- มีคอร์ส การบรรยาย และสัมนาออนไลน์เกี่ยวกับการลงทุนให้เข้าร่วมฟรี
ข้อเสีย
- ไม่มีการสนับสนุนภาษาไทย
- ระยะเวลาในการถอนเงินประมาณ 3-7 วัน
- เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์บางส่วนยังไม่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย
วิธีเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์สำหรับนักลงทุนมือใหม่
วิธีการเทรดในปัจจุบันมีความสะดวกและรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพราะนักลงทุนสามารถเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำเป็นต้องนำส่งเอกสารบางอย่างเพื่อการยืนยันตัวตน การรักษาความปลอดภัยของบัญชี และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันการฟอกเงิน
หากนักลงทุนยังไม่เคยเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์มาก่อน นักลงทุนสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่เราแนะนำ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: เปิดบัญชีเทรด
Pepperstone คือโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เราอยากแนะนำมากที่สุดสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เพราะผู้ให้บริการรายนี้เชื่อถือได้ มีเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์เป็นภาษาไทย หน้าเว็บไซต์ใช้งานง่าย และมีวิธีการเปิดบัญชีที่ง่ายดาย ให้นักลงทุนไปที่หน้าแรกของเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Pepperstone และคลิกที่ปุ่ม ‘เปิดบัญชีเทรดจริง’ จากนั้นเลือกวิธีการลงทะเบียนวิธีการใด ๆ ระหว่าง Apple, Google, Facebook หรืออีเมล จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ประเทศที่พำนัก ชื่อ และนามสกุล ลงในช่องที่กำหนดให้ครบถ้วนและคลิกที่ปุ่ม ‘ดำเนินการต่อ’ขั้นตอนที่ 2: ตอบคำถาม
ให้นักลงทุนตอบคำถามที่กำหนดให้ครบถ้วน เช่น ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในเบื้องต้น เป้าหมายของการลงทุน และเงินทุนที่นักลงทุนสามารถทำใจยอมรับกับความเสี่ยงได้Schritt 3: ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันการมีชีวิต
นักลงทุนทำการยืนยันตนเองว่าเป็นมนุษย์จริงผ่านขั้นตอนการสแกนหน้าซึ่งสามารถทำผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือ อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้นักลงทุนทำการยืนยันผ่านมือถือเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความไม่คมชัดของภาพและวิดีโอซึ่งอาจจะทำให้การยืนยันไม่สำเร็จขั้นตอนที่ 4: ยืนยันตัวตน
นักลงทุนนำส่งเอกสารทางกฎหมายเพื่อการยืนยันตัวตน เช่น ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน รวมไปถึงเอกสารยืนยันที่อยู่ เช่น ใบแจ้งหนี้ ที่ระบุชื่อ นามสกุล และที่อยู่ของนักลงทุน เจ้าหน้าที่ของ Pepperstone จะใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลประมาณ 1-3 วันและจะแจ้งผลลัพธ์ผ่านทางอีเมลและ/หรือ SMS เบอร์โทรศัพท์ที่นักลงทุนกรอกในขั้นตอนการลงทะเบียนขั้นตอนที่ 5: เติมเครดิต
เมื่อบัญชีเทรดของนักลงทุนได้ผ่านการอนุมัติแล้ว นักลงทุนสามารถลงชื่อเข้าใช้งานได้ในทันที ให้นักลงทุนไปที่โปรไฟล์และคลิก ‘การฝากเงิน’ เลือกวิธีการชำระเงินวิธีการใด ๆ เช่น Visa กรอกจำนวนเงินที่ต้องการเติมเป็นเครดิตเข้าสู่บัญชี และดำเนินการชำระเงินให้สำเร็จ เมื่อยอดเครดิตถูกอัปเดตในบัญชีเทรดของนักลงทุนแล้ว นักลงทุนสามารถเริ่มต้มการเทรดได้ในทันที
คำแนะนำเทรดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
การเทรดมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด นักลงทุนควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
1. ลงทุนด้วยเงินเย็น
นักลงทุนควรเทรดด้วยเงินเย็นเท่านั้น ซึ่งเงินเย็นคือเงินเก็บที่ยังไม่ได้ถูกวางแผนว่าจะถูกนำไปใช้ประโยชน์อะไรต่อไปในอนาคต เช่น ไม่ใช่เงินสำรองเพื่อการชำระหนี้ เป็นต้น — กล่าวโดยง่ายคือ เป็นเงินที่ถ้าหากสูญไปแล้วจะไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อชีวิตประจำวันของนักลงทุน
2. มีแผนสำรอง
นักลงทุนควรวางแผนสำรองเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการลงทุน เช่น ราคาสินทรัพย์ได้ลดลงจากปัจจัยบางอย่างที่คาดไม่ถึง ซึ่งถ้าหากนักลงทุนมีแผนสำรอง เช่น เงินเย็นสำหรับการถัวเฉลี่ยราคาสินทรัพย์ นี่อาจจะช่วยบรรเทาการขาดทุนของนักลงทุนได้ส่วนหนึ่ง
3. ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน
นักลงทุนควรศึกษาว่าคริปโตคืออะไร สินทรัพย์ดิจิทัลคืออะไร และทำความเข้าใจในสินทรัพย์ใด ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เช่น หากนักลงทุนต้องการลงทุนในหุ้น Apple นักลงทุนควรศึกษารายละเอียดธุรกิจ กลุ่มลูกค้า และตรวจสอบงบการเงินย้อนหลัง รวมไปถึงการติดตามข่าวสารระหว่างการลงทุนอยู่เสมอ
4. ใช้กลยุทธ์ในการเทรด
นักลงทุนควรศึกษาและใช้กลยุทธ์ในการเทรด เช่น การอ่านกราฟ การเทรดตามเส้น EMA50 หรือจะใช้บริการกับแพลตฟอร์ม copy trading ที่ดีที่สุด และการเทรดตามวัฏจักรหุ้นตามทฤฎษีดาว (Dow Theory) เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาสินทรัพย์ จุดเข้าซื้อที่ดี และจุดที่ต้องเฝ้าระวัง
5. ทำการฝึกฝน
หากนักลงทุนยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนหรือมีประสบการณ์ค่อนข้างน้อย เราขอแนะนำให้นักลงทุนฝึกฝนผ่านบัญชีทดลอง (Demo) เพื่อศึกษาเครื่องมือและวิธีการเทรดให้เข้าใจอย่างถ่องแท้พร้อมกับการทดลองการใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ก่อนทำการเทรดด้วยเงินจริง
บทสรุป
การเทรดคือกระบวนการในการซื้อและขายสินทรัพย์ โดยนักลงทุนทำการซื้อสินทรัพย์เพื่อถือครองและทำการขายสินทรัพย์เพื่อทำเงินจากส่วนต่างของราคา เช่น ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ถูกกว่าและขายสินทรัพย์ในราคาที่แพงกว่า สินทรัพย์ที่นักลงทุนสามารถทำการเทรดมีหลากหลายประเภท เช่น หุ้น ทองคำ และคริปโทเคอร์เรนซี
ปัจจุบันนี้ นักลงทุนสามารถทำการเทรดกับโบรกเกอร์ออนไลน์ ผู้เชี่ยวชาญของเราได้คัดเลือกและแนะนำโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ดีที่สุด 3 รายการซึ่ง Pepperstone คือโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ได้รับการแนะนำมาเป็นอันดับ 1 เพราะผู้ให้บริการรายนี้เชื่อถือได้ มีสินทรัพย์หลากหลายประเภทให้เลือก ฝากและถอนเงินง่าย และมีคุณสมบัติดี ๆ อีกหลายประการ