VPN คือ หนึ่งสิ่งสำคัญอย่างยิ่งบนโลกออนไลน์ในปัจจุบัน เพราะมันเป็นเครื่องมือที่ช่วยปกป้องคุณจากเหล่าแฮกเกอร์ นักโฆษณา หรือบุคคลที่สาม ให้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ หรืออย่างน้อยก็เพิ่มความยากสำบากในการเจาะระบบของคุณ
ทั้งนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ที่ผู้ใช้งานควรเลือกใช้ผู้ให้บริการมองหาใน VPN คือประโยชน์การใช้งานสูงสุด อย่างเช่นการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดในการเข้าถึงเว็บไซต์ภายในพื้นที่หรือประเทศต่างๆ เพื่อช่วยปลดล็อคให้คุณสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งโปรดของคุณ เช่น Netflix, Hulu และ Amazon Prime ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ก็ตาม
โดยในบทความนี้ เราได้ทำการตรวจสอบและวิเคราะห์เหล่าผู้ให้บริการ VPN ยอดนิยมทั้ง 20 ตัวเลือกในตลาด โดยมองจากปัจจัยด้าน ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และราคา จนทำให้เราค้นพบแล้วว่า มีผู้ให้บริการ VPN อันไหนบ้าง ที่น่าใช้งานมากที่สุดในปี 2024
VPN ที่ดีที่สุดจากการตรวจสอบของเรา
NordVPN – VPN อันดับ 1 ในตลาด ที่มีเซิร์ฟเวอร์กว่า 6,400 แห่งทั่วโลก
Surfshark – VPN คุ้มค่าที่สุด ที่รองรับการเชื่อมต่อไม่จำกัดอุปกรณ์
ExpressVPN – VPN ที่ปลอดภัยที่สุด ที่มีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 105 ประเทศ
TotalVPN – VPN แรงๆ ที่เหมาะสำหรับการท่องเว็บ ด้วยฟีเจอร์ป้องกันมัลแวร์
CyberGhost – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นสตรีม ด้วยเซิร์ฟเวอร์กว่า 11,700 แห่ง
PrivateVPN – ตัวเลือก VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว
NordVPN – VPN อันดับ 1 ในตลาด ที่มีเซิร์ฟเวอร์กว่า 6,400 แห่งทั่วโลก
เหมาะสำหรับ | การใช้งานทั่วไป |
เครือข่าย | มากกว่า 6,400 เซิร์ฟเวอร์ ใน 111 ประเทศ |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android, และ Linux |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | 10 อุปกรณ์ |
ราคา | เริ่มต้นที่ 3.39 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุม
- ความเร็วในการเชื่อมต่อที่ยอดเยี่ยม
- เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only
- ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลาย
ข้อเสีย
- ไม่สามารถใช้งานแบบฟรีได้
Surfshark – VPN คุ้มค่าที่สุด ที่รองรับการเชื่อมต่อไม่จำกัดอุปกรณ์
เหมาะสำหรับ | ควบคุมต้นทุน |
เครือข่าย | มากกว่า 3,200 เซิร์ฟเวอร์ ในกว่า 100 ประเทศ |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android, และ Linux |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | 8 อุปกรณ์ |
ราคา | เริ่มต้นที่ 6.67 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- ความเร็ว VPN ที่ยอดเยี่ยม
- ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ครอบคลุม
- เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only
- การเชื่อมต่อพร้อมกันไม่จำกัด
ข้อเสีย
- มีค่าบริการ
- เป็นส่วนหนึ่งของ 14 Eyes
ExpressVPN – VPN ที่ปลอดภัยที่สุด ที่มีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 105 ประเทศ
เหมาะสำหรับ | ด้านความปลอดภัย |
เครือข่าย | มากกว่า 3000 เซิร์ฟเวอร์ ในกว่า 105ประเทศ |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android, และ Linux |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | ไม่จำกัด |
ราคา | เริ่มต้นที่ 2.19 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- ไม่บันทึกข้อมูล
- ใช้งานได้ในหลายพื้นที่
- ไม่มีการรั่วไหลของ IP
- มีpre-installed Keys และ Threat Manager ให้ใช้ฟรี
ข้อเสีย
- สามารถทดลองใช้ฟรีได้แค่บนสมาร์ทโฟน
- จำกัดการใช้งานที่ 8 อุปกรณ์
- อยู่ภายใต้ Kape Technologies
PureVPN – VPN ที่เร็วที่สุด มีเซิร์ฟเวอร์ความเร็วถึง 20Gbps
เหมาะสำหรับ | ความเร็วในการเชื่อมต่อ |
เครือข่าย | มากกว่า 6000 เซิร์ฟเวอร์ ในกว่า 65 ประเทศ |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android, และ Linux |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | 10 อุปกรณ์ |
ราคา | เริ่มต้นที่ 2.14 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- ราคาถูก
- อินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
- มีส่วนต่อขยายที่ราคาถูก
- มีการตรวจสอบแบบ Real Time
ข้อเสีย
- การใช้งานบนอุปกรณ์ระบบ Android และ iOS อาจขาดฟีเจอร์สำคัญบางอย่าง
- มีเซิร์ฟเวอร์ในเพียง 65 ประเทศ
- ความเร็วไม่คงที่
TotalVPN – VPN แรงๆ ที่เหมาะสำหรับการท่องเว็บ ด้วยฟีเจอร์ป้องกันมัลแวร์
เหมาะสำหรับ | ท่องโลกออนไลน์ |
เครือข่าย | มากกว่า 50 เซิร์ฟเวอร์ ในกว่า 30 ประเทศ |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android, และ Linux |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | 50 อุปกรณ์ |
ราคา | เริ่มต้นที่ 2.41 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- มีเครื่องมือช่วยป้องกันไวรัสรวมถึงบล็อกโฆษณา
- สามารถป้องกันมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้งานง่าย
- ราคาถูก
ข้อเสีย
- มีจำนวนเครือข่ายที่จำกัด
- ค่าใช้จ่ายในการต่ออายุที่สูง
IvacyVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานในระยะยาว
เหมาะสำหรับ | ใช้งานระยะยาว |
เครือข่าย | มากกว่า 5,700 เซิร์ฟเวอร์ ในกว่า 70 ประเทศ |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android, และ Linux |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | 10 อุปกรณ์ |
ราคา | เริ่มต้นที่ 1.17 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- มีแผนระยะยาวที่ราคาไม่แพง
- มีประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอ
- สามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง
- รองรับการชำระเงินแบบไม่เปิดเผยตัวตน
ข้อเสีย
- ไม่มี kill switch สำหรับ Mac และ iOS
- ตั้งอยู่ในประเทศ Fourteen Eyes
- ปัญหาด้านความเร็วสำหรับเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ที่ต่างกัน
IPVanish – VPN ตัวโดนสำหรับใช้งานบนสมาร์ทโฟน
เหมาะสำหรับ | ใช้งานบน Smartphone |
เครือข่าย | มากกว่า 2,400 เซิร์ฟเวอร์ ในกว่า 50 ประเทศ |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | ไม่จำกัด |
ราคา | เริ่มต้นที่ 2.19 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- การเชื่อมต่อพร้อมกันได้อย่างไม่จำกัด
- ฟีเจอร์ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน
- ใช้งานได้ดีบนสมาร์ทโฟน
ข้อเสีย
- มีฐานดำเนินการอยู่ในสหรัฐอเมริกา
- และความเสถียรสำหรับการใช้งานแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งบางราย
- ไม่สามารถเลือก IP Address ได้แบบเฉพาะเจาะจง
PrivadoVPN – VPN ใช้งานง่าย ที่เหมาะสำหรับมือใหม่
เหมาะสำหรับ | มือใหม่ |
เครือข่าย | มากกว่า 300 เซิร์ฟเวอร์ ในกว่า 49 ประเทศ |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android, และ Linux |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | 10 อุปกรณ์ |
ราคา | เริ่มต้นที่ 1.99 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- ใช้งานง่าย
- ราคาถูก
- มีเวอร์ชั่นฟรี
- เซิร์ฟเวอร์ที่ถูกปรับแต่งสำหรับการสตรีมและกิจกรรม P2P
ข้อเสีย
- เครือข่ายเล็ก
- นโยบายไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้งานยังไม่ถูกตรวจสอบจากองค์กรอิสระ
CyberGhost – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นสตรีม ด้วยเซิร์ฟเวอร์กว่า 11,700 แห่ง
เหมาะสำหรับ | สตรีมมิ่ง |
เครือข่าย | มากกว่า 11,700 เซิร์ฟเวอร์ ในกว่า 100 ประเทศ |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android, และ Linux |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | 7 อุปกรณ์ |
ราคา | เริ่มต้นที่ 2.19 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- มีมากกว่า 11,700 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
- มีเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกปรับแต่งให้ใช้งานสำหรับการเล่นเกม สตรีมมิ่ง และ torrenting
- รับประกันการคืนเงิน 45 วัน
ข้อเสีย
- มีปัญหาในด้านความเร็วความสูง
- ฟีเจอร์จำกัด
- อยู่ภายใต้การดูแลของ Kape Technologies
PrivateVPN – ตัวเลือก VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว
เหมาะสำหรับ | ความเป็นส่วนตัว |
เครือข่าย | มากกว่า 200 เซิร์ฟเวอร์ใน 63 ประเทศทั่วโลก |
ทำงานบน | สามารถใช้งานได้บนWindows, Mac, iOS, Android, และ Linux |
เชื่อมต่อได้สูงสุด | 10 อุปกรณ์ |
ราคา | เริ่มต้นที่ 2 ดอลลาร์ต่อเดือน |
ข้อดี
- การเชื่อมต่อที่ปลอดภัย
- โหมด Stealth VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแบน VPN
- ง่ายต่อการใช้งาน
- การบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อเสีย
- เซิร์ฟเวอร์มีขนาดค่อนข้างเล็ก
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบ multi-hop
- ไม่มีส่วนเสริม (add-ons) สำหรับเบราว์เซอร์
VPN คืออะไร?
vpn คือ การสร้างอุโมงค์ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เหล่า แฮกเกอร์ นักทำโฆษณา และบุคคลที่สามอื่นๆ สามารถขโมยข้อมูลของผู้ใช้งานและนำไปใช้ เพื่อประโยชน์ของตนเอง นอกจากนี้ การ มุดvpn คือ การเปลี่ยน IP Address ของผู้ใช้งาน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานจะสามารถเข้าถึงข่าวสารหรือเนื้อหาทั่วโลกที่ถูกจำกัดในพื้นที่ประเทศของตนเองได้
นอกจากนี้การ มุด vpn คือ การเปลี่ยน IP Address ของผู้ใช้งาน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานจะสามารถเข้าถึงข่าวสารหรือเนื้อหาทั่วโลกที่ถูกจำกัดในพื้นที่ประเทศของตนเองได้ ดังนั้นประโยคที่พูดว่า มุด vpn คือ วิธีการที่ช่วยให้คุณเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในประเทศของคุณได้อย่างง่ายดาย
VPN ทำงานอย่างไร?
สำหรับการที่ยังไม่เข้าใจว่าการ เปิด vpnคือ อะไร? โดยตามหลักการ เปิด vpnคือการสร้างอุโมงค์เข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับอินเทอร์เน็ต ที่เมื่อผู้ใช้งานทำการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยจะถูกสร้างขึ้นระหว่างอุปกรณ์ของผู้ใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ VPN โดยที่ทำให้ข้อมูลทั้งหมดเมื่อจะถูกเข้ารหัสเมื่อผ่านอุโมงดังกล่าว และถูกถอดรหัสเมื่อถึงเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น
จากนั้นคำขอที่ถูกถอดรหัสจะถูกส่งไปยังอินเทอร์เน็ต และเมื่อได้รับการตอบกลับ ข้อมูลนี้จะถูกเข้ารหัสบนเซิร์ฟเวอร์ VPN และส่งกลับไปยังอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน
VPN Router คืออะไร?
vpn router คือ อุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งาน VPN กับอุปกรณ์หลายเครื่องในเครือข่ายได้พร้อมกัน vpn router คือ ทางเลือกที่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการปกป้องทุกอุปกรณ์ในเครือข่ายโดยไม่ต้องตั้งค่าทีละเครื่อง นอกจากนี้ vpn router คือ วิธีที่ดีสำหรับการใช้งาน VPN กับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถรองรับการติดตั้ง VPN ได้โดยตรง
SSL VPN คืออะไร?
สำหรับผู้ที่ต้องการเจาะลึกเกี่ยวกับ VPN ให้มากขึ้น โดยเฉพาะกับ Secure Sockets Layer ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่น่าสนใจ โดย SSL VPN คือเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อระยะไกลอย่างปลอดภัย SSL VPN คือ การใช้โปรโตคอล SSL (Secure Sockets Layer) หรือ TLS (Transport Layer Security) เพื่อสร้างอุโมงค์เข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ของผู้ใช้และเครือข่ายองค์กร SSL VPN คือ วิธีการใช้งานโปรโตคอลผ่านซอฟต์แวร์ภายนอก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน หนี้จึงทำให้ SSL VPN คือ ทางเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับองค์กรที่ต้องการให้พนักงานสามารถทำงานจากระยะไกลได้อย่างปลอดภัย โดยสรุป SSL VPN คือ โซลูชันที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายองค์กรได้อย่างปลอดภัยจากทุกที่
ทำไม VPN ถึงจำเป็นสำหรับทุกคน?
ในบางครั้งหลายคนอาจมองว่าหากตัวเองไม่มีอะไรต้องปิดบัง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ VPN แต่ในความเป็นจริงนั้น VPN มีบริการที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยที่ไม่ได้เกี่ยวว่าคุณจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสงสัยหรือไม่
โดยเนื้อแท้ของ เน็ต vpn คือ เครือข่ายเสมือนส่วนตัว ที่ช่วยในการซ่อน IP Address ของคุณเพื่อทำให้ผู้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณไม่สามารถเห็นได้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันเหล่าแฮกเกอร์และนักโฆษณาให้ไม่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของคุณบนโลกออนไลน์อีกได้ เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
เรียกได้ว่าในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์เริ่มมากขึ้น vpn คือ ทางออกที่ดีที่สุดในการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของตุณในโลกดิจิทัล จากการช่วยซ่อน IP Address ของคุณ
ในขณะที่หลายคนมีการใช้ Wi-Fi สาธารณะโดนที่ไม่รู้ว่าข้อมูลของพวกเขาสามารถถูกเข้าถึงได้ง่ายๆจากบุคคลอื่นๆ vpn คือ เครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยรักษาข้อมูลของคุณบนโลกออนไลน์ให้ปลอดภัยจากผู้ไม่หวังดี นอกจากนี้vpnคือ อะไร ที่ช่วยให้คุณสามารถก้าวข้าม Firewall เพื่อเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดการเข้าถึงได้ โดยไม่กระทบวามเร็วในการเชื่อมต่อของคุณ
ทำไมต้องใช้ VPN?
นอกเหนือจากความปลอดภับออนไลน์และการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นส่วนตัวแล้ว คุณยังสามารถใช้ VPN ได้กับวัตถุประสงค์หลายอย่างได้แก่
เข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดในประเทศ
สำหรับผู้ที่กำลังมองหา vpn ไทย แรงๆ การเปลี่ยนที่อยู่ IP Address จะทำให้คุณเหมือนกับใช้งานอินเทอร์เน็ตจากต่างประเทศ ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ข่าวสาร ร้านค้า และอื่นๆ ที่ถูกจำกัดการเข้าถึงในประเทศไทยได้
การ Streaming
โดยปกติเว็บไซต์ Streaming ยอดนิยมอย่าง Netflix, Amazon Prime Video, และ HBO มักจะมี Content ที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ เนื่องจากอาจมีข้อตกลงลิขสิทธิ์บางอย่างหรือการอนุญาตภายในแต่ละประเทศที่ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นแพลตฟอร์มอย่างHulu และ Paramount+ มีให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ดังนั้นหาก vpn ราคาถูก ที่คุณใช้มีฟีเจอร์ในการปลดบล็อกเนื้อหาเหล่านี้ได้ คุณจะสามารถเข้าถึงรายการบนแพลตฟอร์มโปรดได้จากทุกที่
ดังนั้น VPN จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงรายการบนแพลตฟอร์มโปรดได้จากทุกที่
และนี่คือตัวอย่างรายการที่คุณสามารถรับชมได้ผ่าน VPN
สำหรับเล่นเกม
vpn thailand ที่มีประสิทธิภาพสามารถให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเกมที่ถูกจำกัดในพื้นที่ประเทศของตนเอง และในบางครั้งการใช้ทรัพยากรในการประมวลผลจำนวนมากภายในเกม อาจทำให้ ISP ของคุณอาจช้าลง ทั้งนี้การสลับไปใช้ vpn ไทย แรงๆ อาจเป็นทางเลือกที่ดีเมื่อเกิดกรณีดังกล่าว
การแลกเปลี่ยนไฟล์แบบ Torrenting
การแลกเปลี่ยนไฟล์หรือ Torrenting เป็นอีกกิจกรรมบนโลกออนไลน์ที่จำเป็นต้องใช้ความปลอดภัยสูงในการใช้งาน vpn แนะนำ เพราะเมื่อผู้ใช้งานเริ่มทำการ Torrenting นั่นหมายความว่า IP Address ของผู้ใช้งานจะถูกเปิดเผยกับผู้ใช้งานในเครือข่าย P2P อื่นๆ
ดังนั้นการเข้ารหัสการใช้งานด้วยการ มุด vpn คือ การทำให้ผู้ใช้งานสามารถซ่อน IP Address จริงของตน และทำให้การเชื่อมต่อมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ผู้ให้บริการ VPN ที่ไหนเร็วที่สุด?
การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและไร้ความหน่วงเป็นสำคัญที่สุดที่ผู้ใข้งานอินเทอร์เน็ตต้องการ โดยเฉพาะเมื่อใช้ vpn thailand ดังนั้นผู้ใช้งาน VPN ทุกคนต้องการไม่ให้ VPN ที่ตนใช้อยู่ไปกระทบกับความเร็วอินเทอร์เน็ตของตน แต่เนื่องจากปกติที่การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN อาจทำให้ความเร็วลดลงบางส่วนจากการเชื่อมต่อหลายขึ้นตอน
ทั้งนี้ผู้ให้บริการ VPN ที่ดีควรรักษาอัตราความหน่วงไม่ให้ไปลดความเร็วมากเกินไป และจากการทดสอบผู้ให้บริการ VPN ชั้นนำเหล่านี้ เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบความเร็วของผู็ให้บริการทั้งหมด ที่จะมีรายละเอียดในแง่ของความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลด
ผู้ให้บริการ | เฉลี่ยการรักษาความเร็วการดาวน์โหลด | เฉลี่ยการรักษาความเร็วการอัปโหลด |
NordVPN | 73.37% | 79.82% |
Surfshark | 73.43% | 73.39% |
ExpressVPN | 49.91% | 52.55% |
PureVPN | 68.65% | 59.96% |
TotalVPN | 50.75% | 63.85% |
IvacyVPN | 70.73% | 68.45% |
IPVanish | 69.75% | 68.70% |
PrivadoVPN | 68.90% | 81.65% |
CyberGhost | 64.16% | 32.05% |
PrivateVPN | – | – |
จากการเปรียบเทียม ทำให้สรุปได้ว่า Surfshark and NordVPN ถือเป็นผู้ให้บริการ vpn ไทย แรงๆ ที่เร็วที่สุด จากดูจากความเร็วและความสามารถในการการรักษาความหน่วงเมื่อใช้งาน
วิธีค้นหาผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุด
ผุ้ให้บริการ VPN มักจะนำเสนอฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ที่หลากหลายให้กับลูกค้า ซึ่งจะรวมถึงโปรโตคอลสำหรับเข้ารหัสต่างๆ รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในในหลายประเทศ ทั้งนี้ความน่าเชื่อถิอและประสิทธิภาพของผู้ให้บริการ VPN อาจมีความแตกต่างกันตามปัจจัยเฉพาะ สำหรับ vpn ราคาถูก ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความปลอดภัย การบันทึกข้อมูล ประสิทธิภาพ และการรองรับอุปกรณ์ด้วย
ความปลอดภัย
เป็นสำคัญที่ผู้ให้บริการ VPN ควรจะต้องมีฟีเจอร์อย่าง VPN firewall, การเข้าถึงโปรโตคอล VPN ทีดี, และการเข้ารหัสลับที่แข็งแกร่ง อย่างเช่น การเข้ารหัสแบบ AES-256 เพื่อปกป้องข้อมูลจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต
ผู้ให้บริการในบางที่จะใช้ Token VPN เพื่อรับรองความปลอดภับเพิ่มเติม นอกจากนี้ผู้ให้บริการอีกหลายแห่งยังมีฟีเจอร์ในการป่องกันการรั่วไหลของข้อมูลเพื่อไม่ให้ IP Address ของผู้ใช้งานถูกเปิดเผย
สำหรับผู้ที่สนใจผู้ให้บริการ VPN ที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมเช่นเดียวกับผู้ให้บริการ TotalAV สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้
การบันทึกข้อมูล
ผู้ให้บริการ VPN ที่ดีควรมีนโยบายไม่เก็บบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมออนไลน์ของผู้ใช้งาน และควรมีการรับประกันคุณภาพด้านความโปร่งใส ที่สามารถตรวจสอบได้โดยบุคคลที่สาม
ศักยภาพ
ผู้ให้บริการ VPN ควรมีความเร็วในการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถท่องทำกิจกรรมออนไลน์ได้โดยไม่ประสบความล่าช้า โดยเฉพาะเมื่อใช้ VPN กับกิจกรรมอย่าง Torrent, สตรีมมิ่งวีดีโอ, หรือการเล่นเกมออนไลน์
ผู้ให้บริการ VPN ที่ดีจะมีเซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลาย การให้แบนด์วิดท์ไม่จำกัด และสามารถใช้ตัวรวม VPN เพื่อสร้างและจัดการการเชื่อมต่อ VPN อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ผู็ใช้งานควรพิจารณาจำนวนเซิร์ฟเวอร์ ของแต่ละผู้ให้บริการ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานเฉพาะตัว
การรองรับอุปกรณ์
บริการที่ดีในการมุดvpn คือ การสามารถใช้งานได้ทั้งกับคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต พร้อมกับมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
VPN ปลอดภัยหรือไม่? อะไรที่ทำให้มันปลอดภัย?
อาจมีหลายคนที่สงสัยว่าที่จริงแล้วการใช้มุดvpn คือปลอดภัยหรือไม่ ทั้งนี้การมุด vpn คือสิ่งที่มีความปลอดภัยอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยมันมีจุดประสงค์ในการใช้งานด้านการเพิ่มความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ของผู้ใช้งาน ด้วยฟีเจอร์ที่นำเสนอด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะ และมาตรการรักษาความเป็นส่วนตัวที่ครอบคลุม
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่ไม่ใช่ว่าผู้ให้บริการ VPN ทุกแห่งจะมีความปลอดภัยในการใช้งานที่เท่าเทียมกันหมด โดยเฉพาะกับผู้ให้บริการ VPN ฟรีที่มักจะถูกมองว่ามีความเสี่ยงในการถูกข้อมูลแทนที่จะช่วยป้องกัน
และด้วยเหตุนี้ เรายังจะแนะวิธีการเลือกซอฟต์แวร์ VPN ที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย โดยพิจารณาจาก
- ดำเนินการบนประเทศที่ปลอดภัย – ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการ VPN มีการดำเนินงานอยู่ในพื้นที่หรือประเทศที่มีการกำกับดูแลด้วยความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ และมีนโยบายด้านการรักษาความเป็นส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม ที่จะไม่มีข้อกำหนดทางกฎหมายให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ โดย NordVPN ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศปานามา ถือเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับัจจัยนี้
- นโยบายไม่เก็บบันทึกข้อมูล – นโยบายไม่เก็บบันทึกข้อมูล จะเป็นสิ่งที่การันดีได้ว่าผู้ให้บริการจะไม่ทำการเก็บรวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหรือบันทึกกิจกรรมของผู้ใช้ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าผู้ให้บริการส่วนใหญ่มักจะเสนอมาตรการรักษาความเป็นส่วนตัวนี้ แต่ผู้ใช้งานเลือกเลือกใช้ผู้ให้บริการที่ผ่านการตรวจสอบและพิสูจน์จากองค์กรภายนอกเท่านั้น
- เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM เท่านั้น – ผู้ให้บริการ VPN ที่ดีและปลอดภัยมักใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM ซึ่งข้อมูลจะถูกลบทิ้งหลังจากรีบูตแต่ละครั้ง โดบสิ่งนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ในส่วนของผู้ให้บริการ
- การเข้ารหัส – ผู้ให้บริการ VPN ทีดีจะใช้การเข้ารหัสแบบ AES-256 ที่มีความปลอดภัยสูง อย่างเช่น Surfshark, ExpressVPN หรือ NordVPN
- Kill Switch – Kill Switch ใน vpn คือ เครื่องมือที่จะช่วยตัดการเชื่อมต่อของคุณจากอินเทอร์เน็ตทันทีในกรณีที่การเชื่อมต่อ VPN ล้มเหลวโดยอัตโนมัติ ด้วยวิธีนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่า ที่อยู่ IP จริงของผู้ใช้งานจะไม่รั่วไหล ดังนั้น Kill Switch จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ควรมีใน vpn แนะนำ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรรู้ไว้ก่อนทำการสมัครใช้งานเพื่อมุดvpn คือ ในบางประเทศเช่น เบลารุส อิรัก เกาหลีเหนือ และเติร์กเมนิสถาน การใช้ VPN ถือเป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่ปลอดภัยอย่างมากในการใช้งาน VPN ในประเทศเหล่านี้ เพราะมันอาจส่งผลให้คุณอาจถูกดำเนินการทางกฏหมายไปจนถึงการจำคุกได้เลยทีเดียว
โดยสรุป การเลือก vpn ไทย แรงๆ ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ จะช่วยให้คุณใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมมิ่ง การเล่นเกม หรือการท่องเว็บทั่วไป
ข้อดีของการใช้งาน VPN
มีซอฟต์แวร์ VPN อยู่หลายประเภทที่ถูกนำไปใช้ในธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ โดยมี 1 ประเภทที่ถูกใช้งานกันอย่างแพร่หลายในบริษัททั่วโลกคือ remote access VPN ที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลขององค์กรได้อย่างปลอดภัยที่ไหนก็ได้บนโลก พร้อมด้วยการจัดการผ่านบุคคลที่ 3
โดย remote access VPN มาได้รับการสนับสนุนให้เป็นเครื่องมือป้องกันความปลอดภัยที่ดีสำหรับองค์กรที่ทำงานในหลายพื้นที่ทั่วโลก อีกทั้งยังมีมาตรการยืนยันข้อมูลแบบไบโอเมตริกของผู้ใช้งานก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าถึงแอป
ข้อเสียของการ VPN
นับตั้งแต่การที่ผู้ใช้งานมีการเชื่อมต่อ VPN ข้อมูลของผู้ใช้จะถูกส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ VPN เพื่อเข้ารหัส และเนื่องจากข้อมูลที่ผ่าน VPN ถูกเข้ารหัส มันจึงเป็นเรื่องปกติที่ผู้ใช้งานจะพบว่าความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดมีความช้าลง
นอกจากนี้ ในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถท่องโลกออนไลน์ได้โดยไม่เปิดเผยตัวตน VPN จะทำการเปลี่ยน IP Address ของผู้ใช้งาน เป็น IP Address อื่นที่ผู้ให้บริการมี และในบางครั้งสิ่งนี้อาจทำให้เกิดปัญหาหาก IP address ของผู้ใช้งานถูกบล็อกและไม่สามารถใช้งานได้
สิ่งที่ควรระวังสำหรับการใช้งาน VPN
VPN ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการท่องโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตามวันยังมีจุดที่ควรเฝ้าระวังเล็กน้อย ได้แก่
- ราคา – ทางเราไม่แนะนำให้ใช้ VPN ที่ไม่คิดค่าบริการ เนื่องจากผู้ให้บริการเหล่านี้อาจมีข้อจำกัดใช้งานที่รุนแรงและไม่โปร่งใส โดยในกรณีที่แย่ที่สุดพวกเขาอาจเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้ให้กับกลุ่มคนที่ไม่หวังดี ซึ่งเป็นเรื่องตรงกันข้ามอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน VPN เพื่อรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ผู้ใช้งานจึงควรเลือกใช้ VPN จากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ เพราะถึงแม้พวกเขาจะคิดค่าธรรมเนียม แต่ถือว่าถูกมากหากเทียบกับความปลอดภัยและฟีเจอร์ต่างๆที่จะได้รับ
- ความเร็วในการเชื่อมต่อ – จากการเชื่อมต่อไปมาระหว่างการใช้งาน VPN อาจทำให้ผู้ใช้งานพบว่าความเร็วในการเชื่อมต่อลดลง โดยเฉพาะกับผู้ให้บริการที่ไม่คิดค่าธรรมเนียม อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการ VPN ที่ดีจะพยายามอย่างมากในการไม่ลดความเร็วอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้งานมากเกินไป ทำให้ผู้ใช้งานยังคงสามารถเล่นเกมและ Streaming ได้
- ความถูกต้องตามกฎหมาย – แม้ว่าการใช้งาน VPN จะเป็นสิ่งที่ทำได้อย่างถูกกฎหมายในหลายพื้นที่ทั่วโลก แต่สำหรับบางประเทศยังคงมีการจำกัดหรือห้ามใช้ VPN แบบเด็ดขาด โดยมีประเทศอย่าง เบลารุส อิรัก เกาหลีเหนือ และเติร์กเมนิสถาน ที่มีกฎหมายที่เข้มงวดสำหรับการใช้งาน VPN อีกทั้งยังมีประเทศอย่าง อินเดีย รัสเซีย และจีนจำกัดและตรวจสอบการใช้ VPN อย่างเข้มงวด ดังนั้น ผู้ใช้งานจึงควรศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการใช้ VPN ในแต่ละประเทศให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจนถึงขั้นติดคุก
ควรเลือกใช้ VPN แบบฟรี หรือ VPN แบบจ่ายเงิน?
โดยปกติผู้ให้บริการ VPN แบบฟรีมาเป็นที่ชื่นชอบเนื่องจากผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพื่อเข้าใช้งาน แต่อาจมีข้อเสียบางประการอย่างการบังคับให้คุณต้องดูโฆษณา ในขณะที่ผู้ให้บริการ VPN แบบฟรีบางรายอาจมีแบนด์วิดท์หรือตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัด เพื่อหลอกล่อให้ผู้ใช้งานต้องยอมอัพเกรดเป็นแบบเสียเงิน อีกทั้ง VPN Free มักไม่เหมาะสำหรับการ Streaming หรือ torrenting
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบ เราพบว่า PrivadoVPN และ PrivateVPN ถือเป็น 2 ผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุดโดยมี PrivateVPN นามเป็นอันดับ 1 จากการเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น โดยไม่มีข้อจำกัดในการใช้ข้อมูล นอกจากนี้ผู้ให้บริการเหล่านี้ยังได้รวมบริการ Kill switch ไว้ในบริการฟรีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าบริการฟรีเหล่านี้จะสามารถทำงานได้อย่างเพียงพอสำหรับการซ่อน IP Address ของผู้ใช้งาน แต่ยังถือว่ามีประสิทธิภาพที่ด้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับแพ็คเกจ VPN แบบเสียเงินถึงแม้จะเป็น vpn ราคาถูก ก็ตาม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีกว่าที่จะมองหาแพคเกจ VPN ที่ราคาไม่แพงมาใช้งาน
แนวโน้มตลาด VPN
จากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเริ่มมองหาวิธีในการรักษาความปลอดภัยออนไลน์มากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาด VPN คือ ก็จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าทางตลาดมากถึง 45 พันล้านดอลลาร์ ไปแล้วในปัจจุบัน
Key Findings
- ในขณะนี้มีผู้คนเริ่มตระหนักรู้ถึงความสำคัญของเครื่องมือ VPN เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐมีชาวอเมริกันถึง 88% ที่รู้จัก VPN
- มีการดาวน์โหลด VPN ไปแล้วถึง 130 ล้านครั้ง นับตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของปี 2023 (อ้างอิงจาก Atlas VPN)
- จะข้อมูลในเดือนมิถุนายนปี 2023 พบว่ามีผู้คนจำนวนมากเริ่มกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ VPN โดยพบว่า ความเสี่ยงในการติดมัล เป็นสิ่งที่ผู้คนกังวลมากที่สุด และขณะที่การโจมตีแบบ zero-day + APT และการโจมตีแบบ DDoS เป็นสิ่งที่ผู้คนกังวลรองลงมาตามลำดับ อย่างไรก็ตามก็สำรวจพบว่าผู้ใช้งานจะมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยน้อยลง หากผู้ให้บริการ VPN มีภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งและไม่มีกรณีข้อมูลรั่วไหลเกิดขึ้นให้เป็นข่าว
- ความง่ายในการใช้งาน VPN คือ อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญ โดยจากการสำรวจพบว่า 21% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าซอฟต์แวร์ VPN นั้นใช้งานยากเกินไป อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานอีก 70% จะมีการใช้งานทุกวันหรือเกือบทุกวันหลังจากผ่านขั้นตอนการตั้งค่าเริ่มต้นไปได้แล้ว
โดยรวมพบว่า ตลาด vpn thailand กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและยังสามารถดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ๆเข้ามาได้ ถึงแม้จะยังมีความกังวลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้งาน แต่ในทางด้านผู้ให้บริการยังคงปรับปรุงแล้วพัฒนาระบบของตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อะไรคือ VPN ที่ดีที่สุด? วิธีเลือก VPN ให้เหมาะสมกับความต้องการตัวเอง
และปัจจุบันมีเครือข่าย VPN ให้ผู้ใช้งานเลือกใช้อยู่มากมาย โดยทำให้สำหรับผู้ให้บริการมีเปลี่ยนเองนั้นก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง อย่างไรก็ตามมีผู้ให้บริการที่เป็นผู้นำในตลาดไม่กี่ราย ที่มีความโดดเด่นทางด้านการใช้งานจริงๆ ทั้งในแง่ของความเร็ว ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ
ด้วยเหตุนี้ทางเราจึงได้ลิสรายชื่อผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุดทั้งในด้านการตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย โดยจากการค้นคว้าเราพบว่า NordVPN ถือเป็นผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุดในตอนนี้ ซึ่งผู้สนใจสามารถลองใช้มันได้โดยไม่มีความเสี่ยง และสามารถรับเงินคืนได้ภายใน 1 เดือน
FAQs
การเชื่อมต่อ VPNคืออะไร?
มี VPN ฟรีที่ดีหรือไม่?
จะรู้ได้อย่างไรว่า VPN กำลังทำงานอยู่?
VPN มีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไร?
ผู้ให้บริการ vpn แนะนำ
บริการ VPN ที่ดีที่สุดบน Reddit คืออะไร?
VPN ใช้เพื่ออะไร?
VPN ของที่ไหนปลอดภัยที่สุด?
VPN ใดที่มีการบริการลูกค้าดีที่สุด?
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตในประเทศจีน (The Guardian)
- ตลาด VPN (Precedence Research)
- การออกแบบเครือข่าย VPN (Università del Sannio)
- เว็บไซต์ WireGuard (WireGuard)
- รายงานความเสี่ยงจาก VPN ปี 2023 (ZScaler)
- สถิติการใช้งาน VPN ปี 2024 (Security.org)