หากพูดถึง VPN ที่น่าเชื่อถือและมีฟีเจอร์ดีๆ สักตัว เชื่อว่า CyberGhost คงเป็นอีกตัวเลือกที่หลายคนนึกถึง เพราะเป็น VPN ใช้ง่าย ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลกและขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย
CyberGhost ใช้นโยบาย no-logs (ไร้การบันทึก) และฟีเจอร์เด่นๆ มากมาย ประกอบกับราคาที่เข้าถึงได้ มีรับประกันคืนเงินภายใน 45 วัน ทำให้เป็นหนึ่งใน VPN ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย
ข้อดี
- ราคาเป็นกันเอง
- เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่
- เหมาะกับการเล่นเกม สตรีมมิ่ง และการดาวน์โหลดไฟล์แบบ Torrenting
- เป็นเซิร์ฟเวอร์ RAM-only
- โปร่งใส เชื่อถือได้ ด้วยนโยบาย no-logs ที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว
- มีให้ทดลองใช้ฟรี
ข้อด้อย
- ลูกค้า Linux อาจไม่ได้รับฟีเจอร์เท่าแพลตฟอร์มอื่น
- แอปของอุปกรณ์ Apple อาจมีฟังก์ชันที่จำกัด
- บางเซิร์ฟเวอร์โอเวอร์โหลด
ในบทความ CyberGhost Review นี้เราจะมาเจาะลึกกันว่า CyberGhost VPN ดีไหม มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง แต่ละแพคเกจราคาเท่าไหร่ และฟีเจอร์เด่นๆ ที่ควรพูดถึงมีอะไรบ้าง โดยจะครอบคลุมรายละเอียดทั้งหมดที่คุณควรรู้เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม VPN ในฐานะตัวช่วยปกป้องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวจากโลกออนไลน์ ซึ่งเราคัดมาแล้วว่านี่คือผู้ให้บริการ VPN ที่ยอดเยี่ยมและใช้งานง่ายตั้งแต่ขั้นตอน CyberGhost Login ไปจนถึงการเปิดใช้งาน
CyberGhost VPN คืออะไร?
CyberGhost เป็นผู้ให้บริการ VPN ระดับแนวหน้าจากบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดย Robert Knapp และปัจจุบันนี้ให้บริการแก่ผู้ใช้งานมากกว่า 38 ล้านคนทั่วโลก
VPN CyberGhost ขึ้นชื่อเรื่องการเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่หลากหลาย และการรองรับ torrenting (การแชร์/โหลดไฟล์ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยใช้เครือข่ายเพียร์ทูเพียร์/P2P)
โดยมีมากกว่า 11,000 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ให้สปีดในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วไม่ว่าผู้ใช้งานจะอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ CyberGhost Security Suite หรือชุดรักษาความปลอดภัยสำหรับ Windows ยังเป็นโปรแกรมเสริมแอนตี้ไวรัสที่จัดทำโดย Intego ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุด
CyberGhost รีวิวแพคเกจและราคา
แม้ว่า CyberGhost จะไม่ใช่ VPN ที่ถูกที่สุด แต่แพคเกจต่างๆ ก็มีราคาที่เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะแพคเกจสุดคุ้ม 2 ปี
ในขณะที่คู่แข่งหลายเจ้าจะล็อคฟีเจอร์ระดับสูงไว้สำหรับแพคเกจราคาแพง แต่ไม่ใช่สำหรับ CyberGhost
แพคเกจ | ราคา |
1 เดือน | $12.99/เดือน |
6 เดือน | $6.99/เดือน (รวมเป็น $41.94) |
2 ปี + 4 เดือน ฟรี | $2.03/เดือน (รวมเป็น $56.94) |
แต่ละแพคเกจต่างกันแค่ระยะเวลา ซึ่งทุกแพคเกจจะมาพร้อมการันตีคืนเงินภายใน 45 วัน (โดยทั่วไป VPN เจ้าอื่นจะจำกัดอยู่แค่ 30 วัน)
สำหรับผู้ที่ใช้ Windows และ MacOS มีให้ทดลองใช้งานฟรี 24 ชั่วโมง ซึ่งค่อนข้างสั้น แต่ก็ถือว่ายังดี เพราะจริงๆ แล้วมีผู้ให้บริการ VPN เพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ให้ทดลองใช้ฟรี นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้บริการฟรีได้ด้วยปลั๊กอินสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox แต่จะมีฟีเจอร์น้อยกว่าแอปเต็ม
ส่วนผู้ที่ใช้มือถือ ระยะเวลาการทดลองใช้งานฟรีของ CyberGhost VPN จะต่างกัน คือ 3 วันสำหรับ Android ไปจนถึง 7 วันสำหรับ iOS
CyberGhost Security Suite สำหรับ Windows
ชุดรักษาความปลอดภัยของ CyberGhost เป็นฟังก์ชันเสริมที่เลือกซื้อเพิ่มได้ โดยมีค่าใช้จ่าย 1 ดอลล่าร์ต่อเดือน ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันมัลแวร์ สปายแวร์ ไปจนถึงการป้องกันแรนซัมแวร์ ด้วยตัวแอนตี้ไวรัสและเครื่องมืออัพเดตความปลอดภัย ซึ่งขับเคลื่อนโดย Intego หนึ่งในโซลูชันแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุด
VPN CyberGhost รีวิวความปลอดภัย
กล่าวได้ว่า CyberGhost มาพร้อมกับทุกคุณสมบัติที่ VPN ดีๆ ต้องการ เพื่อรับรองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่น นโยบายไม่บันทึกข้อมูลและการเข้ารหัส AES 256 บิต ดังนั้นถ้าถามว่า CyberGhost ปลอดภัยไหม? แน่นอนว่าคำตอบคือ “ใช่” ทีนี้เรามาดูกันว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้างที่น่าสนใจ รวมถึงรายละเอียดของแต่ละฟีเจอร์
Encryption (การเข้ารหัส)
CyberGhost ช่วยปิดบังข้อมูลของคุณด้วยการเข้ารหัสหลายชั้น มีการเข้ารหัส AES 256-bit เกรดเดียวกับที่ใช้ในกองทัพ ซึ่งเป็นการเข้ารหัสแบบบล็อกที่แบ่งข้อมูลของคุณออกเป็นชุดๆ ขนาด 256-bit และแปลงข้อความธรรมดาของข้อมูลนั้นๆ ให้เป็นข้อความที่อ่านไม่ออก ทำให้การถอดรหัสทำได้ยากมาก
Tunneling Protocols (โปรโตคอลการสร้างอุโมงค์)
โปรโตคอล Tunneling จะสร้างอุโมงค์หรือสะพานขึ้นมา เพื่อเชื่อมระหว่างจุด 2 จุดในเครือข่าย แล้วทำให้การส่งข้อมูลระหว่าง 2 จุดนี้เป็นไปอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ CyberGhost มีโปรโตคอล Tunneling ให้เลือกใช้ 3 ตัว ดังนี้
IPSec (IKEv2) — โปรโตคอลความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ต (Internet Protocol Security หรือ IPSec) มีความเสถียรสูงและมีระดับการเข้ารหัสที่ดีมาก อย่างไรก็ตาม อาจมีปัญหากับ firewalls (ไฟร์วอลล์) หรือทำงานร่วมกันได้กับจำนวนอุปกรณ์ที่จำกัด
OpenVPN — หนึ่งในโปรโตคอลที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะมีความยืดหยุ่น ปลอดภัยสูง และเอาชนะไฟร์วอลล์ได้ แต่จะใช้ทรัพยากรมาก ทำให้อาจส่งผลกระทบต่อความเร็วในการเชื่อมต่อเครือข่าย
WireGuard — เป็นโปรโตคอลที่เด่นเรื่องความเร็วในการเชื่อมต่อ และเปิดให้ตรวจสอบได้ ทั้งยังสามารถทำงานได้ดีในกรณีที่โปรโตคอลอื่นล้มเหลว อย่างไรก็ตาม WireGuard อาจเสี่ยงต่อการถูกบล็อกพอร์ต และการบันทึกข้อมูลบางส่วนอาจถูกจำกัด
เซิร์ฟเวอร์ RAM-Only
CyberGhost VPN ใช้เซิร์ฟเวอร์ RAM-Only เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะถูกล้างข้อมูลทั้งหมดทุกครั้งที่รีบูต ดังนั้นแม้จะมีคนสามารถแฮ็กเข้าไปได้ ก็จะไม่พบข้อมูล นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลดด้วย
Wi-Fi Protection
CyberGhost ใช้ Wi-Fi protection เพื่อปกป้องคุณจากเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัยและการโจมตีแบบ ‘man in the middle‘ ทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อ Wi-Fi วีพีเอ็น CyberGhost ก็จะเปิดทำงานโดยอัตโนมัติ คุณจึงสามารถวางใจได้ว่าข้อมูลของคุณได้รับการเข้ารหัสแล้ว และสามารถใช้ Wi-Fi สาธารณะได้อย่างไร้กังวล”
DNS Leak Protection (การป้องกัน DNS รั่วไหล)
การป้องกันการรั่วไหลของ DNS จาก CyberGhost VPN จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP ติดตามคุณ โดยจะส่งข้อมูลของคุณผ่านเซิร์ฟเวอร์ DNS และถ้า ISP พยายามสอดแนมพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคุณ ก็จะเห็นแค่ที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ DNS เท่านั้น นอกจากนี้ CyberGhost ยังมีฟีเจอร์อีกหลายอย่างเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลของคุณรั่วไหล
No-Logs Policy (นโยบายไม่บันทึกข้อมูล)
No-log policy คือการที่พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคุณจะไม่ถูกบันทึก ซึ่งนโยบายนี้ของ CyberGhost ได้ถูกตรวจสอบแล้วโดย Deloitte ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกในกลุ่ม Big Four และผลการตรวจสอบยืนยันว่าบริการของ CyberGhost เป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทที่ได้เคลมไว้จริงๆ
ประกอบกับ CyberGhost VPN มีสำนักงานใหญ่อยู่ในโรมาเนีย ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่บังคับให้ผู้ให้บริการ VPN เก็บบันทึกข้อมูล และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพาร์ทเนอร์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล
VPN CyberGhost Review ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
หลังพูดถึงรายละเอียดด้านความปลอดภัยของ CyberGhost VPN ไปแล้ว ทีนี้เรามาดูฟีเจอร์อื่นๆ ที่มีให้บริการกันบ้าง เพราะวีพีเอ็นไซเบอร์โกสต์ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานด้วยฟีเจอร์ดังต่อไปนี้
Servers (เซิร์ฟเวอร์)
CyberGhost VPN มีมากกว่า 11,500 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการวีพีเอ็นที่มีจำนวนเซิร์ฟเวอร์มากที่สุด มากกว่า PureVPN หรือแม้แต่ NordVPN เจ้าดังเสียอีก
เซิร์ฟเวอร์มากมายได้รับการปรับแต่งมาเพื่อการสตรีมมิ่ง การเล่นเกม และการดาวน์โหลดไฟล์แบบ torrenting โดยเฉพาะ เซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่งนั้นมุ่งเน้นไปที่ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งแบบเจาะจง และทำให้ CyberGhost กลายเป็นหนึ่งใน VPN สตรีมมิ่งที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ ไซเบอร์โกสต์วีพีเอ็นยังมีเซิร์ฟเวอร์ NoSpy ที่บริหารจัดการโดย CyberGhost เท่านั้น แบบไม่มีบุคคลที่สาม ซึ่งเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้อยู่ในโรมาเนีย และมีแบนด์วิดธ์เพิ่มขึ้นเพื่อสปีดที่เร็วขึ้น
Simultaneous Connections (การเชื่อมต่อพร้อมกัน)
คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 7 เครื่องพร้อมกันโดยไม่มีการจำกัดข้อมูล ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป อย่างไรก็ตาม ยังมีคู่แข่งเจ้าอื่นที่ให้เชื่อมต่อพร้อมกันได้มากกว่า เช่น PureVPN (10 เครื่อง) และ SurfShark (ไม่จำกัด)
Kill Switch
Kill Switch ที่มีประสิทธิภาพสูงของ CyberGhost จะทำหน้าที่บล็อกการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมดโดยอัตโนมัติเมื่อการเชื่อมต่อ VPN ของคุณถูกตัดไป ซึ่งการเชื่อมต่อที่ขาดหายไปสามารถเกิดขึ้นได้กับ VPN ทุกตัว ดังนั้นการมีฟีเจอร์ kill switch จะสามารถช่วยป้องกันข้อมูลรั่วไหลได้ดี
Split Tunneling
แทนที่จะให้ข้อมูลทั้งหมดวิ่งผ่าน tunnel ที่ถูกเข้ารหัส Split Tunneling หรือการแบ่งการเชื่อมต่อ จะช่วยให้คุณเลือกได้ว่าการรับส่งข้อมูลใดบ้างที่อยากให้ผ่าน VPN และข้อมูลใดบ้างที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยตรงได้ อย่างไรก็ตาม การแบ่งการเชื่อมต่อของ CyberGhost VPN สามารถทำได้เฉพาะกับเว็บไซต์เท่านั้น ไม่สามารถทำได้บนแอปพลิเคชัน
Dedicated IP
ปกติแล้วเวลาคุณใช้ VPN คุณมักจะแชร์ที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเชื่อมต่ออยู่ กับผู้ใช้งานคนอื่นๆ ซึ่งจะเหมาะกับแอปพลิเคชันอย่างการเล่นเกม การสตรีมมิ่ง และการดาวน์โหลดแบบ P2P
ที่อยู่ IP เฉพาะ หรือ Dedicated IP เป็นที่อยู่ IP ที่คงที่และไม่ซ้ำกับใคร ซึ่งจะเป็นประโยชน์เวลาคุณต้องเข้าถึงเครือข่ายที่บล็อกที่อยู่ IP บางตัว หรือต้องการทำธุรกรรมออนไลน์โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม
Ad Blocker (บล็อกโฆษณา)
ตัวบล็อกโฆษณาของ VPN CyberGhost ใช้ชื่อว่า Content Blocker สามารถเปิดใช้งานได้ง่ายๆ ในเมนูการตั้งค่า จากนั้น Content Blocker ก็จะบล็อกโฆษณา เครื่องมือติดตาม และมัลแวร์บางส่วน ทั้งนี้ ฟีเจอร์นี้ยังไม่พร้อมใช้งานสำหรับ iOS แต่ก็มีแอปเบราว์เซอร์ส่วนตัวฟรีสำหรับ iOS ที่เสนอทางเลือกในการท่องเว็บแบบไม่ระบุตัวตนแทน
Smart Rules
ฟีเจอร์ Smart Rules ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่ง CyberGhost ให้ทำงานตามความชอบส่วนตัวได้ หรือเรียกใช้งานแอปโดยให้ CyberGhost เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการโดยอัตโนมัติ
อุปกรณ์ที่รองรับ และประสิทธิภาพของ CyberGhost VPN รีวิว
CyberGhost สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์หลายประเภท:
- เดสก์ท็อป: Windows, macOS, Linux
- อุปกรณ์มือถือ: Android, iOS
- เราเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ: สมาร์ททีวี, Android TV, Amazon Firestick, คอนโซลเกม
- ส่วนขยายของเบราว์เซอร์: Chrome และ Firefox
- เครื่องมือค้นหา (สำหรับเบราว์เซอร์ส่วนตัว): Google, Bing, Yahoo, DuckDuckGo, Private.sh, และ Yandex
ทีมงานของเราได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและความเร็วของ CyberGhost โดยเราได้บันทึกความเร็วของการเชื่อมต่อแบบปกติ จากนั้นเข้าสู่ CyberGhost แล้วเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์หลายแห่งทั่วโลก เราทำแบบนี้วันละ 3 ครั้ง เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพโดยรวมของ VPN CyberGhost
จากผลการทดสอบ วีพีเอ็นไซเบอร์โกสต์แสดงศักยภาพได้อย่างไม่น่าผิดหวัง โดยความเร็วในการดาวน์โหลดอยู่ที่ประมาณ 62-65% ของการเชื่อมต่อโดยตรง ส่วนความเร็วในการอัปโหลดจะนานกว่าเล็กน้อย ทั้งนี้คู่แข่งอย่าง Surfshark และ NordVPN ถือเป็นผู้นำด้านความเร็ว โดยมีความเร็วอยู่ที่ประมาณ 70% ของการเชื่อมต่อที่ไม่มีการเข้ารหัส
CyberGhost VPN ดีไหม สำหรับการสตรีมมิ่ง
CyberGhost VPN มีเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับแต่งมาสำหรับการสตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์มต่างๆ มากมาย เช่น Hulu, HBO Max, และ Disney+ เมื่อเราทำการทดสอบ ได้พบว่า CyberGhost VPN มันสามารถปลดล็อกพวกไลบรารีที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้ แม้ว่าบางไลบรารีอาจจะใช้เวลาในการโหลดนานกว่าปกติ แต่ดูเหมือนจะมาจากแพลตฟอร์มการสตรีมมิ่งเองมากกว่า
CyberGhost VPN ยังมีเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับแต่งไว้สำหรับช่องทางสตรีมมิ่งโดยเฉพาะ เช่น iPlayer ของสหราชอาณาจักรและ 9now ของออสเตรเลีย ซึ่งมาพร้อมกับการรองรับ Netflix ทำให้ไซเบอร์โกสต์เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Netflix
CyberGhost VPN ดีไหม สำหรับการเล่นเกม
เซิร์ฟเวอร์สำหรับการเล่นเกมควรจะต้องมีความหน่วง (latency) ต่ำ เพราะยิ่งความหน่วงต่ำ ประสบการณ์การเล่นเกมก็จะยิ่งดี เมื่อคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์สำหรับการเล่นเกมของ CyberGhost อาจจะพบว่ามีความหน่วงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขนาดกระทบประสบการณ์การเล่นเกมของคุณ
ทำให้ VPN CyberGhost เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเล่นเกม และเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับเกมแนว Warzone ซึ่ง CyberGhost สามารถใช้งานได้กับแพลตฟอร์มการเล่นเกมหลักๆ ทั้งหมด รวมถึง PlayStation, Xbox, และ Nintendo Switch ผ่านทางเราเตอร์ หรือเราเตอร์เสมือนที่ติดตั้งบนเดสก์ท็อป
CyberGhost VPN ดีไหม สำหรับ Torrenting
นอกจากจะรองรับการเชื่อมต่อ P2P แล้ว CyberGhost ยังมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับการดาวน์โหลดแบบ torrenting ด้วย ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ดีๆ สำหรับการดาวน์โหลดได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าอาจจะยังไม่ใช่เจ้าที่เร็วที่สุด แต่วีพีเอ็นไซเบอร์โกสต์ก็เป็นหนึ่งใน VPN ตัวท็อปสำหรับ torrenting หรือการแชร์ไฟล์แบบ P2P
วิธีใช้ CyberGhost VPN มือใหม่ก็ทำตามได้ง่ายๆ
VPN เจ้านี้ใช้งานง่าย แต่อาจจะมีจุดที่ซับซ้อนบ้างเล็กน้อยช่วง CyberGhost Login ซึ่งเราได้เตรียมวิธีการที่ทำตามได้ง่ายๆ มาให้แล้ว
เข้าไปที่เว็บไซต์ CyberGhost
เข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของ VPN CyberGhost แล้วเลือกแพคเกจที่ต้องการจากแท็ปราคา ซึ่งแต่ละแพคเกจมีลักษณะและคุณสมบัติเหมือนกัน แนะนำให้เลือกตามงบและระยะเวลาได้เลย จากนั้นกด “Continue to Checkout”
กรอกข้อมูลชำระเงิน
การกดชำระเงินจะพาคุณไปยังหน้าสรุปคำสั่งซื้อ ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายด้วย Visa, PayPal, Google Pay, Amazon Pay หรือแม้แต่ Bitcoin หลังจากกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มชำระเงินแล้ว ให้คลิก “Buy Now” (ซื้อตอนนี้)
Create Account (สร้างบัญชี CyberGhost)
เมื่อทำการซื้อเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนของ CyberGhost Sign Up โดยก่อนอื่นคุณก็จะต้องสร้างบัญชีและเข้าสู่ระบบ
ในหน้าแรกหรือโฮมเพจ ให้คลิกปุ่ม “My Account” (บัญชีของฉัน) ซึ่งระบบจะพาคุณไปยังหน้าลงทะเบียน
CyberGhost Login (CyberGhost ล็อคอินเข้าสู่บัญชี)
เมื่อมีบัญชีแล้ว ก็ทำการล็อคอินได้เลย เพียงแค่กรอกข้อมูลในช่องด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
CyberGhost Download (CyberGhost ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน)
เมื่อล็อคอินเข้ามาได้แล้ว ให้เลือก “Download Hub” ปุ่มสีเขียว แล้วคลิกลิงก์ CyberGhost Download ตามระบบปฏิบัติการที่คุณใช้ คือ Windows, MacOS หรือ Linux
CyberGhost Installation (ติดตั้งแอปพลิเคชัน)
หลังผ่านขั้นตอน CyberGhost Download แล้ว เมื่อไปที่โฟลเดอร์ดาวน์โหลดของคุณ คุณจะเห็นไฟล์ติดตั้ง ให้ดับเบิลคลิกที่ไฟล์นี้ แล้วรอให้การติดตั้งอัตโนมัตินี้เสร็จสมบูรณ์
Connect to CyberGhost (เชื่อมต่อ CyberGhost)
เราได้ผ่านพาร์ทที่ยากที่สุดมาแล้ว ตอนนี้หากคุณต้องการเชื่อมต่อกับ VPN CyberGhost ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาแล้วคลิกปุ่ม power กลางหน้าจอ
Change Your Location (เปลี่ยนที่อยู่ของคุณ)
ในการจะเปลี่ยนตำแหน่งของคุณ ให้คลิกที่ปุ่มขยาย ระบบจะแสดงรายชื่อเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่มี คุณสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการได้เลย เมื่อเลือกเซิร์ฟเวอร์แล้ว ให้คลิกที่ปุ่มเปิด/ปิดเพื่อเชื่อมต่อ เป็นอันเสร็จสิ้น
CyberGhost รีวิวฝ่ายบริการลูกค้า
วีพีเอ็น CyberGhost มีฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน Live Chat ที่เข้าถึงได้จากหน้าเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม CyberGhost ไม่รองรับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทางโทรศัพท์ (ซึ่งเป็นปกติของผู้ให้บริการ VPN)
นอกจากนี้ หน้าเว็บไซต์ยังเต็มไปด้วยแหล่งข้อมูลและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์มากมาย และถ้าคุณต้องการยกเลิกสมัครสมาชิกก็ทำได้ง่าย
ใน Trustpilot วีพีเอ็นไซเบอร์โกสต์ได้ 4.2/5 ดาว จากกว่า 22,000 รีวิว จัดอยู่ในระดับดีเยี่ยม (Excellent) ซึ่งผู้ใช้งานส่วนใหญ่พูดถึงเรื่องความคุ้มค่าและความเร็ว ในขณะที่บางรีวิวบอกว่าฝ่ายสนับสนุนลูกค้าควรได้รับการปรับปรุง
เกณฑ์การทดสอบ CyberGhost VPN
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามีประสบการณ์ในการทดสอบ VPN และความปลอดภัยทางไซเบอร์มามาก ซึ่งเราได้ทดสอบบริการหรือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เรารีวิวอย่างละเอียด ตามมาตรฐานและปัจจัยสำคัญ ดังนี้
ฟีเจอร์ – CyberGhost มีฟีเจอร์ดังๆ ที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เช่น คิลสวิตช์, split tunneling, การเข้ารหัส AES-256 หรือนโยบาย no-logs ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดที่เรามักจะมองหาในผู้ให้บริการ VPN
การใช้งาน – การมีอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่ายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ VPN เป็นบริการที่ถูกใช้งานบ่อย ดังนั้นจึงมีผลอย่างมากต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และสามารถเข้าถึงผู้ใช้มือใหม่ได้ด้วย
ประสิทธิภาพ/ความเร็วในการเชื่อมต่อ – ทีมงานของเราได้ทำการทดสอบอย่างละเอียดเพื่อวัดความเร็วในการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพของ CyberGhost พบว่า CyberGhost VPN เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในด้านประสิทธิภาพและความเร็ว แม้ว่าจะยังไม่ใช่ VPN ที่เร็วที่สุดก็ตาม โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ NordVPN และ Surfshark
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและฟีดแบค – เรามักจะสำรวจฟีดแบคและอ่านรีวิว CyberGhost VPN หรือบริการใดๆ เพื่อให้ทราบถึงประสบการณ์ของคนที่ใช้งานในระยะยาว ซึ่งเรามักจะได้เห็นคุณภาพของการบริการลูกค้าผ่านรีวิวเหล่านี้ ทั้งบริการที่มีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าดีและสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ ไปจนถึงความล้มเหลวที่นำไปสู่ความผิดหวังของลูกค้า
บทสรุป
CyberGhost VPN เป็นอีกผู้ให้บริการ VPN ที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาสปีดในการเชื่อมต่อได้ดี แม้ว่า CyberGhost Free Trial หรือการทดลองใช้ฟรีจะให้เวลาน้อย แต่ก็มีราคาที่สมเหตุสมผลและส่วนลดจำนวนมากสำหรับแพคเกจระยะยาว ทั้งยังมีการันตีคืนเงินภายใน 45 วัน ทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะเลือกแพคเกจไหน คุณก็สามารถเข้าถึงทุกฟีเจอร์ของ CyberGhost ได้เหมือนกันหมด ต่างจาก VPN เจ้าอื่นๆ ที่มักจะสงวนฟีเจอร์ดีๆ ไว้สำหรับแพคเกจแพงๆ เท่านั้น ดังนั้นหากถามว่า CyberGhost VPN ดีไหม คงต้องตอบว่านี่คือหนึ่งใน VPN ที่ดีและคุ้มค่าที่สุด
อ้างอิง
- VPN คือ อะไร? เปิดลิส 10 ผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2024
- The Best Antivirus Software of 2024
- Advanced Encryption Standard (AES)
- Tunneling
- Man-in-the-Middle Attack (MITM)
- IP Address (Internet Protocol Address)
- รีวิว NordVPN อัปเดตล่าสุด 2024
- Surfshark Review 2024
- Peer-to-Peer (P2P) Network
- The Best VPN for Netflix in 2024
- Best VPN for Warzone – Top Cod VPNs for Getting Bot Lobbies in 2024
- Best VPN for Torrenting – Top VPNs for P2P File Sharing in 2024
- CyberGhost
- How We Review And Test VPN Services
- Fastest VPN Service in 2024 – Stream or Play Games Online Buffer-Free